พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี “ลุยฝน”ตรวจติดตาม สถานการณ์นำ้ จ.พระนครศรีอยุธยา
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี “ลุยฝน”ตรวจติดตาม
สถานการณ์นำ้ จ.พระนครศรีอยุธยา
พลเอก ประวิตร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ และเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา จังหวัดประกาศ 6 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัย ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
วันที่ 3 ตุลาคม พลเอก วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นาย วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล อดีต รมต.เกษตร นาย ชณทัต ปัทะมะภูวดล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคณะร่วมลงพื้นที่มาตรวจสถานการณ์น้ำ เพื่อรับฟังรายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่และการช่วยเหลือในพื้นที่อุทกภัย โดยจุดแรก พล.อ.ประวิตร เดินทางมายัง ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ณ วัดโบสถ์(ล่าง)และจุดที่ 2 ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำน้อย บริเวณที่ว่าการ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนพบปะเยี่ยมเยือน และให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัด พระนครศรีอยุธยา โดยมี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคณะให้การต้อนรับ และรายงานสถานการณ์น้ำและการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ โดย จ.พระนครศรีอยุธยา มีประชาชนได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรของประชาชน ปัจจุบันมีประชาชน ได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือน รวม 11 อำเภอ 107 ตำบล 598 หมู่บ้าน 29,795 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ รวม 2,566 ไร่ (เป็นข้าว 1,882.75 ไร่ พืชผัก/พืชไร่ 161.75 ไร่ ไม้ผล/ไม้ยืนต้น/อื่น ๆ 521.50 ไร่
ชณทัต ปัทะมะภูวดล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้สัมภาษณ์ อำเภอบางบาล อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางไทร อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน อำเภอบางปะหัน อำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง อำเภอมหาราช อำเภอภาชี และอำเภอวังน้อย พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย โดย จังหวัดฯ ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และเขตการให้ความช่วยเหลือฯ แล้ว จำนวน 6 อำเภอ 82 ตำบล 475 หมู่บ้าน 4 ชุมชน ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ถึงอธิบดีกรมชลประทานให้เปิดประตูระบายน้ำ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอผักไห่ อ.บางบาล และ อ.เสนา โดยการระบายน้ำเข้าทุ่ง กรมชลประทานจะลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ และพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสม จากนั้นพร้อมลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องประชาชนบ้านเรือนที่ประสบอุกภัย ร่วมถึงติดตามสถานการณ์การระบายน้ำของชลประทานในพื้นที่อีกด้วย