Header Ads

 


เชียงใหม่ ชาวไร่ยาสูบไม่ทนเชียงใหม่ เกือบ 300 คน เข้ายืนหนังสือร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ถึงกระทรวงการคลัง เร่งแก้ไขปัญหา

 



เชียงใหม่ ชาวไร่ยาสูบไม่ทนเชียงใหม่ เกือบ 300 คน เข้ายืนหนังสือร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ถึงกระทรวงการคลัง เร่งแก้ไขปัญหา

ปรับลดโควต้าปลูกใบยาสูบลดลง ขึ้นราคารับซื้อให้สะท้อนต้นทุนจริง  ชาวไร่ยาสูบเวอร์จิเนีย 5 จังหวัดภาคเหนือ นัดดีเดย์บุกศูนย์ดำรงธรรม 5 จังหวัด ยื่นหนังสือฟ้อง รมต คลัง เหตุ ยสท. 

กดราคารับซื้อ ไม่คุ้มค่าแรงงาน-ปุ๋ยที่สูงขึ้น ซ้ำตัดโควตาลงอีก 25% ทำชาวไร่น้ำตาตก วอนคลังฯ ช่วยเหลือด่วน ทบทวนราคาใบยาใหม่ให้สะท้อนต้นทุนจริง


ส่วนที่ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มชวไร่ยาสูบ นำโดยนายกฤษณ์ ผาทอง ตัวแทนสมาคมผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบ จังหวัดเชียงใหม่ นำชาวไร่ปลุกยาสูบเกือบ 300  คน เข้ายื่น

หนังสือถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผ่านทางนางศิริพร รือเรือง ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่  เข้ารับหนังสือ 

เพื่อขอให้ช่วยเหลือจากปัญหาต้นทุนการผลิตใบยาสูบที่เพิ่มสูงขึ้น และการลดโควต้ารับซื้อใบยาพันธ์เวอร์จิเนียสำหรับฤดูกาลผลิต 2565/66 ว่า        


ตัวแทนชาวไร่ยาสูบพันธุ์เวอร์จิเนียกว่า 1200 คนในภาคเหนือ นัดรวมตัวกันหน้าศูนย์ดำรงธรรมของแต่ละจังหวัด เพื่อยื่นหนังสือถึง รมต. คลังขอให้ช่วยเหลือชาวไร่และผู้ที่เกี่ยวข้องกว่า 1 

หมื่นคนที่ต้องเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนปัจจัยการผลิตยาสูบ เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ค่าไฟฟ้า ค่าฟืน และค่าแรงงานเพิ่มสูงขึ้นกว่า 60 % แต่ราคารับซื้อใบยาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทย

ไม่ได้ปรับขึ้นให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริงเลย ราคารับซื้อใบยาของ ยสท. ในปัจจุบันใช้มาเกือบ 10 ปีแล้ว หาก ยสท. ยังยืนยันจะใช้ราคาเดิม ชาวไร่และผู้บ่มฯ ก็ไม่สามารถปลูกใบยาสูบ

และประกอบอาชีพต่อไปได้”


การปลูกและอบใบยาพันธุ์เวอร์จิเนียในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แพร่ น่าน และพะเยา เป็นอาชีพท้องถิ่นที่ทำต่อเนื่องกันมาตลอดกว่า 60 ปี แต่ละปีมีผลผลิตใบยา xx กิโลกรัมส่งขายให้กับ 

ยสท. สร้างรายได้ให้ท้องถิ่นรวม xx ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ xx บาทต่อครอบครัว แต่จากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตยาสูบหลายครั้งตั้งแต่ปี 2560 ทำให้ ยสท. ปรับลดโควตารับซื้อใบ

ยาพันธ์เวอร์จิเนียลง 50% เป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน และจะประกาศลดโควตาลงอีก 25% สำหรับฤดูกาลผลิต 2565/66 ที่จะถึงนี้ ทำให้โควตาใบยาพันธ์เวอร์จิเนียถูกลดลงไปกว่า 56%


นายกฤษณ์ ผาทอง  ตัวแทนสมาคมพัฒนาชาวไร่บ่มเอง จังหวัด เชียงใหม่  กล่าวว่า “ยสท. กำลังทำนาบนหลังชาวไร่ ประคองยอดขายและกำไรของตัวเองโดยขูดรีดเอารัดเอาเปรียบชาวไร่ 

ลดต้นทุนของตัวเองด้วยการกดราคารับซื้อใบยา ทั้งๆ ที่ชาวไร่มีต้นทุนค่าปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ค่าแรงงาน ซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการทำไร่สูงขึ้นกิโลกรัมละ 10-15 บาท แต่ ยสท. จะช่วยแค่ครึ่งหนึ่ง 

และผลักภาระให้ชาวไร่แบกรับต้นทุนเองอีกครึ่งหนึ่ง ซึ่งเท่ากับชาวไร่ต้องขายใบยาในราคาที่ขาดทุน จึงอยากให้ ยสท. ช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิตที่เพิ่มขึ้นนี้ตามความเป็นจริง เพื่อให้

สะท้อนต้นทุนในการทำไร่ยาสูบ“ในรายงานประจำปีล่าสุดของ ยสท. เขียนไว้สวยหรูว่า เป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม คำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุก

ภาคส่วน อยากให้ ยสท. ดูแลชาวไร่ยาสูบให้ดีกว่านี้


หากราคารับซื้อของ ยสท. ยังเท่าเดิม และมีการลดโควตาลงอีก ชาวไร่คงทำอาชีพต่อไปไม่ได้แน่ๆ จึงอยากขอความช่วยเหลือผ่านศูนย์ดำรงธรรมไปยังกระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิต 

ให้ชะลอการลดโควตาหรือปรับอัตราการลดโควตาไม่ให้สูงเกินไป และขอให้ ยสท. ช่วยเหลือต้นทุนการผลิตยาสูบที่เพิ่มสูงขึ้นตามความเป็นจริง นอกจากนี้หากยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ

ชาวไร่ปลุกยาสูบพร้อมเดินทางเข้าพบต่อรัฐมตรี่าการกระทรวงการคลัง อีกครั้ง

**********************

ศิระ  วีรตันตยาภรณ์/เชียงใหม่

0919191969/0919191998









ขับเคลื่อนโดย Blogger.