Header Ads

 


ความจริงกระจ่าง หลังผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริง จากคลิปที่เกิดขึ้น

วันที่ 30 พฤษภาคม 2565 ที่ จ.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เพจเฟซบุ๊ก “สหพันธ์นักเรียน นครสวรรค์” ได้มีการนำคลิปภาพเหตุการณ์การกระทบกระทั่งกันระหว่างครูกับลูกศิษย์นำมาโพสต์ โดยเผยให้เห็นคุณครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง กำลังยืนตะคอกสั่งนักเรียนที่นั่งอยู่กับพื้น ให้ลุกขึ้นยืน พร้อมกับกระชากมือเด็กนักเรียนคนนั้นลากถูไปมากับพื้นอาคารเรียน ซึ่งมีช่วงหนึ่งที่นักเรียนกำลังจะใส่รองเท้าพื้นลุกขึ้น แต่กลับถูกครูคนดังกล่าวกระชากลงไปนั่งกับพื้นอีก แต่สุดท้าย ครูก็ได้พานักเรียนคนดังกล่าวเดินออกไปจากอาคารเรียนทันที โดยคลิปเหตุการณ์นี้ ทางเพจเฟซบุ๊กได้มีการลงข้อความอธิบายระบุด้วยว่า  “News โรงเรียนเหลืองขาวประจำอำเภอลาดยาว ครูฝ่ายปกครองในโรงเรียนดังกล่าวได้มีพฤติกรรมแสดงความรุนแรงกับนักเรียนชั้นม.1 ทั้งการใช้คำพูดและการใช้ความรุนแรง โดยเนื้อสามารถรับชมได้ในคลิป ซึ่งถ้าหากนักเรียนมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม หรือผิดระเบียบอย่างครูควรจะตักเตือนก่อนหรือไม่ ให้สังคมได้ช่วยกันพิจารณานะครับ –สหพันธ์นักเรียนนครสวรรค์ #ANS4HumanRights #โรงเรียนเหลืองขาวประจำอำเภอลาดยาว”เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อสอบถามข้อมูลถึงคลิปที่ถูกโพสต์เผยแพร่ จนทราบว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนลาดยาววิทยาคม อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นโรงเรียนรัฐชื่อดังประจำอำเภอ จึงได้เดินทางไปสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับกับนายไพบูลย์ เขียนประเสริฐ ผอ.โรงเรียนลาดยาววิทยาคม ได้รับการเปิดเผยว่า คลิปที่ถูกเผยแพร่ออกไปตามโซเชียล เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากทางคุณครูประจำชั้น ม.2 ได้แจ้งมาว่า เด็กนักเรียนที่ปรากฏอยู่ในคลิปมีปัญหาเรียนการไม่มาเรียน และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอยู่บ่อยครั้ง จึงได้ประสานให้ครูที่ปรึกษาไปพูดคุยกับเด็กเพื่อสอบถามปัญหา แต่ปรากฏว่า ครูที่ปรึกษากลับถูกเด็กนักเรียนคนดังกล่าว ตอกกลับไม่ให้มายุ่ง และให้ไปดูแลลูกของคุณครูให้ดีก่อน ซึ่งคุณครูที่ปรึกษาก็ไม่ได้ถือโกรธเด็กนักเรียนคนนั้นนะ แต่กลับฉุดคิดว่านักเรียนคนนี้น่าจะมีปัญหาซ่อนอยู่ลึกๆ จึงได้ติดต่อไปพูดคุยกับทางผู้ปกครอง จนมีความเห็นว่า เด็กอาจจะมีปัญหาเรื่องสมาธิสั้นและสภาพจิตใจ และทางผู้ปกครองได้ยินยอมที่จะให้เด็กนักเรียนเข้าสู่กระบวนการคัดกรอกและประเมินโรงเรียน ซึ่งได้มีการเรียกนักเรียนให้มาพบครูที่ฝ่ายกิจการนักเรียน แต่เด็กกลับมายอมมาพบ จึงทำให้ครูต้องออกไปตามหาตัว แล้วไปเจอตัวที่อาคารเรียนหลังหนึ่ง จนทำให้เกิดเรื่องราวตามที่ปรากฏอยู่ในคลิปสำหรับเหตุการณ์วันนั้น ยืนยันว่าครูไม่ได้มีการทุบตี หรือทำร้ายเด็กนักเรียนคนดังกล่าว แต่ในช่วงจังหวะนั้น ครูได้ไปดึงมือของนักเรียน จนทำให้นักเรียนลื่นล้ม ซึ่งภาพภายในคลิปอาจจะดูว่ารุนแรงมากนะ แต่ไม่ใช่เป็นอย่างนั้นแน่นอน เพราะพื้นอาคารเรียนหลังนั้น เป็นพื้นไม้ขัดมัน ถ้าหากไม่ระวังก็อาจจะล้มได้ง่ายๆ ซึ่งก็เคยมีนักเรียนลื่นล้มมาแล้วบ่อยครั้ง และวันนั้นนักเรียนคนนี้ใส่ถุงเท้าอยู่ด้วย จึงทำให้ลื่นล้มง่ายขึ้นจนเกิดดูเป็นภาพที่รุนแรง”อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่องขึ้น ทางโรงเรียนก็ได้มีการติดต่อไปยังผู้ปกครองของเด็ก เพื่ออธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และทางผู้ปกครองเขาก็รับฟังเข้าใจ อีกทั้ง ในวันถัดมาก็ได้มีการเชิญผู้ปกครองมาพูดคุยกันที่ห้องทำงานของตน จึงมีความเห็นร่วมกันว่า เด็กนักเรียนคนนี้จะต้องเข้าสู่กระบวนการทดสอบ ด้วยการพาไปยังโรงพยาบาลลาดยาว และเข้าทำการทดสอบตามขั้นตอนของแพทย์ แล้วก็พบว่า เด็กมีปัญหาในเรื่องของสภาวะทางจิต ทางโรงเรียนและผู้ปกครองจึงได้ร่วมกันทำเรื่องส่งเด็กคนนี้ไปบำบัดปรับสภาพจิตยังต่อยังโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ โดยจะมีกำหนดพบแพทย์ในวันที่ 21 มิถุนายน ที่จะถึงนี้“สำหรับเหตุการณ์นี้ ผมอยากจะบอกว่า การตัดสินว่าใครผิดใครถูก หรือว่าใครเป็นยังไง มันใช้ความรู้สึกตัดสินกันไม่ได้ อย่างเช่นเด็กคนนี้ เรามารู้ว่าเขามีสภาวะทางด้านอารมณ์ จึงทำให้เราต้องยิ่งเข้าใกล้และดูแลเขาอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกันกับครูก็มีหน้าที่ที่จะต้องดูแลนักเรียนให้ดีเช่นกัน แม้บางครั้งภาพที่ปรากฏออกมาอาจดูมีความรุนแรง แต่จริงๆ แล้ว ครูทำไปเพราะความเป็นห่วง เพราะจะต้องทำให้นักเรียนอยู่ในกรอบของระบบการศึกษา เล่าเรียนนังสือจนจบ ส่วนครูคนนี้ ปกติเขาก็เป็นคนเสียงดังอยู่แล้ว แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ถือเป็นบทเรียนสำคัญ ซึ่งผมก็ได้มีการเรียกครูคนนี้มาพูดคุย เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีและแนวทางในการเข้าหานักเรียนให้ดูนุ่มนวลขึ้นมากกว่านี้” ผอ.โรงเรียนกล่าวทั้งนี้ ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวได้มีการติดต่อพูดคุยกับนายแก้ว อ้ายแสง อายุ 42 ปี ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่ปรากฏในคลิป เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวอีกด้าน ได้รับการเปิดเผย โดยยอมรับว่าบุตรชายมีปัญหาในระหว่างเรียนจริง และเขามีปัญหาในเรื่องของสมาธิสั้นมาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาแล้ว อีกทั้ง ยังมีพฤติกรรมแสดงอากาต่อต้านทุกครั้งเมื่อพ่อแม่ใช้ให้ทำอะไร ยิ่งพ่อแม่ใช้น้ำเสียงดุ เขาก็ยิ่งต่อต้านมากยิ่งขึ้น ซึ่งตนก็รู้พฤติกรรมของบุตรอยู่แล้ว จึงไม่ได้ติดใจอะไรกับโรงเรียน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคลิป ตนได้สอบถามบุตรชายแล้ว ได้ความว่า ขณะนั้นเขากำลังจะเข้าห้องไปเรียนวิชาที่เขาชอบมาก แต่กลับถูกอาจารย์มาตามให้ไปที่ห้องกิจการนักเรียน จึงทำให้เขาเกิดอาการต่อต้านตีมึนนั่งนิ่งเงียบ ไม่ยอมพูดเปิดปากกับอาจารย์ว่าต้องการเรียนวิชาที่ชอบ จึงทำให้เกิดปัญหาความไม่เข้าใจกัน แต่หลังจากวันนั้น ตนและบุตร รวมถึงคุณครู ต่างก็เข้าใจกันดีแล้ว!!!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ภูธร ​0619782952!!!!!!!
ขับเคลื่อนโดย Blogger.