Header Ads

 


รับคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่าง รัสเชีย-ยูเครน




วันนี้ 2 มี.ค. 65 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสนับสนุนภารกิจการช่วยเหลืออพยพคนไทยในยูเครนเดินทางกลับสู่ประเทศไทย หลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่าง 'รัสเชีย-ยูเครน'


นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล อธิบดีกรมการกงสุล พล.ท.ณรงค์ พฤกษารุ่งเรือง ผูบัญชาการเหตุการณ์ ศูนย์ปฏิบัติการท่าอากาศยาน สนามบินสุวรรณภูมิ  นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) (ทอท.)ร่วมกันต้อนรับ คนไทย กลับประเทศไทย  ตามที่มี สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่าง 'รัสเซีย-ยูเครน' ซึ่งส่งผลกระทบต่อความ ปลอดภัยของคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศยูเครน โดยทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ชอได้ให้การช่วยเหลืออพยพคนไทยในยูเครนถึงกรุงวอร์ซอ โดยสวัสดิภาพแล้ว ซึ่งเดินทางกลับถึงประเทศไทยโดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 923 เดินทางจาก Frankfurt ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 06.25 น.และขึ้นรถบัสจำนวน 2 คัน ไปกักตัวที่ สถาบันบำราศนราดูร และช่วงเที่ยงวันนี้จะมีคนไทยเดินทางกลับมากับ สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 384 เดินทางจาก Dubai ถึงเวลา 12.05 น. มีคนไทยจากยูเครน โดยสารจำนวน 58 คน


นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ทสภ. ได้เตรียมความพร้อมรองรับและสนับสนุนภารกิจรับคนไทยในประเทศยูเครนที่อพยพเดินทางกลับมายังประเทศไทย โดย ทสภ. ได้มีการประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ กระทรวงการต่างประเทศ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (COVID-19) ทสภ. ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ สายการบินตลอดจนหน่วยงานต่างๆ เพื่อติดต่อประสานงานให้คนไทยได้รับความสะดวกในการผ่านขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศไทย และเป็นไปตามมาตรการการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด- 19) ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ทสภ. ได้จัดเตรียมของว่างและน้ำดื่มไว้รับรองคนไทยที่เดินทางมากับเที่ยวบินดังกล่าวให้อีกด้วยทั้งนี้ ทสภ. พร้อมให้การสนับสนุนภารกิจทุกด้านเพื่อช่วยเหลือให้คนไทยที่กำลังประสบภัยในต่างประเทศให้เดินทางกลับประเทศไทยอย่างปลอดภัย โดยผู้ที่ต้องการสอบถามเกี่ยวกับเที่ยวบินเพื่ออพยพคนไทยจากยูเครน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง


วุฒิไกร พิมพ์เงิน / ทีมข่าวสมุทรปราการ







ขับเคลื่อนโดย Blogger.