Header Ads

 


เกษตรกรลำไยแพร่ ยื่นนส.ให้ผู้ว่าฯ "จี้รัฐบาล" ขอค่าเยียวยา ไร่ละ 2,000 บาท หลังจากได้รับผลกระจากโควิด-19






เมื่อเวลา 09.09 น.วันที่  26 ตุลาคม 2564 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดแพร่ นายสว่าง  จิตบุญ ประธานผู้ประสานงานสภาอาชีพเกษตรกร (สอก.)จังหวัดแพร่ และนางพรรณทิพย์ กอบแก้ว รองประธานผู้ประสานงานสภาอาชีพเกษตรกร (สอก.)จังหวัดแพร่ พร้อมเกษตรกรปลูกลำใยจังหวัดแพร่ และประธานแปลงใหญ่ อ.สูงเม่นฯ มายื่นหนังสือกับนายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ โดยมีนางสาวชลลดา แก้วสาร นิติกรปฎิบัติการ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ เป็นผู้มารับหนังสือและรับว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด


ในหนังสือมีความว่า   "ที่ สอก.พร.03/2564 สภาอาชีพเกษตรกร(สอก) จังหวัด แพร่ 98/2 หมู่ 4 ต.บ้านถิ่น อ.เมือง จ.แพร่ 54000 เมื่อ 26 ตุลาคม 2654  เรื่อง การเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกลำไยฤดูกาลการผลิตปี 2564 เรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่

อ้างถึง หนังสือที่ กษ.1305/3143 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2564 สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. หนังสือที่ สอก.51/2564 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2564 จำนวน 1 ฉบับ 2. สำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 4/2564

จำนวน 1 ฉบับ


ตามที่อ้างถึงรัฐบาลได้พิจารณาการเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกลำไยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค

ติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 โดยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564 เห็นชอบการดำเนินงานโครงการ

เยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไยปี 2563 และค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯเป็นเงินทั้งสิ้น 3,440,149,726 บาท

และเกษตรกรชาวสวนลำไยได้รับการเยียวยาทุกครอบครัวในอัตราไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 25 ไร่ ต่อครอบครัว ในปีที่ผ่านมานั้น


เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทำ

ให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไยภาคเหนือ 8 จังหวัด ประกอบด้วย เซียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน และ

แม่ฮ่องสอน มีพื้นที่ปลูกลำไย จำนวน 1,202,400 ไร่ ผลผลิตมากกว่า 1,238,000 ตัน มีเกษตรกรมากกว่า

250,000 ครอบครัวได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวร้สร้ายแรงดังกล่าว ส่งผลให้ราคาลำไยตกต่ำ ขาด

แคลนแรงงาน กลไกการตลาดมีปัญหา โดยเฉพาะการส่งออกลำไยไปต่างประเทศ เกษตรกรจึงประสบปัญหาการ

ขาดทุน มีภาระหนี้สินล้นพ้นตัว ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสและไม่มีเงินทุนที่จะเป็นต้นทุนในการผลิตลำไย

คุณภาพในปี 2565 ที่กำลังมาถึงในขณะนี้ จึงต้องขอรับการเยียวยาจากรัฐบาล ไร่ละ 2,000 บาทเหมือนปีที่ผ่านมา

ประกอบกับการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 4/2564 ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย

ได้มีมติตามข้อ 5.1.1  ในการเตรียมต้นลำไยภายหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต เน้นให้คำแนะนำเกษตรกรใช้ทคโนโลยีที่

เหมาะสมและจัดทำแนวทางพัฒนาลำไยคุณภาพในปีต่อไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึงธันวาคม 2564 การดำเนินงานของเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ตามมติจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีต้นทุนสนับสนุนให้แผนบริหารจัดการตามมติ

ดังกล่าวประสบผลสำเร็จในฤดูกาลการผลิตปี 2565 ดังนั้น จึงขอเงินเยียวยา ไร่ละ 2,000 บาท เพื่อใช้เป็นต้นทุน

การผลิตตามแผนที่คณะกรรมการฯ อนุมัติอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

สภาอาชีพเกษตรกร (สอก.) จึงนำเรียนขอความช่วยเหลือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ให้รัฐบาลได้ให้การ

ช่วยเหลือโดยเร่งด่วนต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

ขอแสดงความนับถือ ( นายสว่าง จิตบุญ )ผู้ประสานงานสภาอาชีพเกษตรกร (สอก.) จังหวัดแพร่

สำนักงานเลขาธิการสภาอาชีพเกษตรกร (สอก.) โทร. 0813863651, 081,9925826 


ทางพรรณทิพย์ กอบแก้ว  กล่าวว่า  วันนี้กลุ่มเกษตรกรปลูกลำใยจังหวัดแพร่ มายื่นหนังสือให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่   เพื่อเรียกร้องค่าเยียวยาจากรัฐบาล โดยยื่นพร้อมกัน 8 จังหวัดภาคเหนือ และจะมาติดตามเรื่องในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ว่า ได้ยื่นเรื่องไปหรือยัง

ภาพ/ข่าว

ราเชนทร์  โชติถนอมกิจ

แพร่.รายงาน





ขับเคลื่อนโดย Blogger.