Header Ads

 


 นนทบุรี  แม่ร้องทนายรณณรงค์ ลูกชายถูกเสาเข็มทับเสียชีวิตในวันปิดแคมป์คนงาน บริษัทจ่ายแค่แสนเดียวแถมเบี้ยวเงินเดือนอีก 2 เดือน

  


  จากกณีเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุเชือกผูก "เสาเข็ม" ขาด หล่นทับร่างคนงานจนทำให้เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณทางเท้าหน้าคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ภายในซอยสุขุมวิท 21 ซอย 1 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร  หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญู และแพทย์นิติเวช จึงได้รีบเดินทางไปตรวจสอบ 

 ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายรัตนชาติมีเจริญ  อายุ 19 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์  และเป็นลูกจ้างของบริษัทฯ ให้บริการระบบป้องกันดินพัง ดินสไลด์ เหล็กชีทไพล์ ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีที่ตั้งอยู่ใน ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ  โดยได้รับว่าจ้างให้มาลง "เสาเข็ม" ในบริเวณดังกล่าว

  จากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายนอนเสียชีวิตในลักษณะคว่ำหน้า สวมเสื้อยืด แขนยาวสีม่วง และสวมกางเกงยีนต์ สีน้ำเงิน สวมรองเท้าผ้าใบสีดำ โดยที่บริเวณด้านข้างศพ เจ้าหน้าที่พบ "เสาเข็ม" ขนาดใหญ่อยู่บริเวณด้านข้าง 

ทั้งนี้จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุผู้ตายได้เข้ามาเก็บของที่ตกค้างอยู่ เพราะมีการปิดสถานที่ดังกล่าว เนื่องจากมีประกาศจากรัฐบาลให้หยุดดำเนินการก่อสร้าง แต่วันนี้ทางบริษัทได้ส่งลูกจ้างเข้าไปจัดเก็บ "เสาเข็ม" ที่ใช้ในงานก่อสร้าง เนื่องจากต้องหยุดการทำงานเป็นเวลานาน

  โดยขณะยกเคลื่อนย้ายเสาเข็มด้วยรถแบ็คโฮ ซึ่งมีนายสุนทร สมบัติ อายุ 27 ปี เป็นคนขับรถ และมีนายรัตนชาติ ผู้ตายเป็นผู้ผูกยึด "เสาเข็ม" อยู่นั้น  ขณะที่ทำการยกเคลื่อนย้ายอยู่เชือกที่ทำการผูกเสาเข็มเกิดขาด ทำให้เสาหล่นมาทับร่าง นายรัตนชาติ จนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เวลาผ่านไปนานหลายเดือนคดีกับไม่มีความคืบหน้า

  เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 ต.ค. 64 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะตำบลบางพูด  อำเภอปากเกร็ด  จังหวัดนนทบุรี นางสาว ปาริชาติ  ม่วงอร่ามอายุ 45 ปี แม่ของนายรัตนชาติ ผู้ตายเดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายรณณรงค์  แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยติดตามคดี เกรงว่าจะเงียบหายและไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยนางสาวปาริชาติ เปิดเผยว่า ตนเอง มีลูกชายเพียงแค่คนเดียวหลังจากเลิกกับสามี มานานหลายปี หลังเกิดเหตุทางนายจ้างช่วยค่าทำศพมา 100,000 บาท แต่ไม่จ่ายเงินเดือนลูกชายอีก 2 เดือน ราวสองหมื่นบาท เพียงแต่เดินเรื่องประกันสังคมให้เพียงแค่นั้น วันเกิดเหตุลูกชายบอกตนเองว่าจะไปทำงานซึ่งตนก็ไม่เข้าใจเพราะวันนั้นมีคำสั่งให้ปิดแคมป์คนงานก่อสร้างแล้วทำไมยังต้องไปทำงานอีก ตนอยากฝากให้นายจ้างออกมาเยียวยาบ้างรับผิดชอบบ้างรวมทั้งเรื่องประกันหน้างานก็เงียบมาตลอดตนเองติดต่อไปหลายครั้ง ก็เงียบเหมือนเดิม จึงอยากให้ทนายรณรงค์ช่วยเหลือ ในเรื่องของลูกชาย ในครั้งนี้ด้วย

   ทางด้านนายรณณรงค์  กล่าวว่า  วันนี้สิ่งที่สะเทือนอารมณ์คือนายกรัฐมนตรีสั่ง พรก.ฉุกเฉินปิดแคมป์คนงาน ปรากฏวันรุ่งขึ้นรีบไปเก็บของรีบไปเคลียร์งาน ทำให้ลูกของเขาตาย ตนคาดว่าไม่น่าใช่ศพเดียว อยากให้นายกรัฐมนตรีออกมาอธิบายหน่อย การฝ่า พรก. ฉุกเฉินตำรวจในพื้นที่มีการดำเนินคดีกับคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดหรือยัง เด็ก 2-3 คน ไม่สามารถเข้าไปทำงานในไซต์งานได้ต้องมีมากกว่านั้น ตามกฏหมายแล้วถ้ามีผู้เสียชีวิต ทางวิศวกรและช่างจะต้องรับผิดชอบแล้วสำนักงานเขต กทม.เข้ามาตรวจไซต์งานแล้วหรือยัง ถ้าไม่ดำเนินการจะมีการยึดใบอนุญาติของวิศวกรหรือไม่ จะต้องมีคนรับผิดชอบ วิศวกรที่กำกับดูแลอยู่ยังไม่เห็นหน้า   

  นอกจากนี้ถ้าเป็นการประมาทนายจ้างจะต้องชดใช้ค่าเสียหายอยู่แล้ว ซึ่งผู้ตายอายุเพียง 19 ปี สามารถเรียกค่าเสียหายได้เป็นล้าน ไม่ใช่จ่าย 1 แสนแล้วจะจบ หลังจากนี้จะไปตรวจสอบที่ สน.ลุมพินีว่าไปถึงไหนแล้ว และจะไปที่กระทรวงแรงงานว่าจะช่วยเหลืออย่างไรบ้าง และจะไปถามนายกรัฐมนตรีว่าท่านคิดอะไรบ้าง และต้องสอบถามทางหน้าไซต์งานว่ามีก่อสร้างตรงนั้นไหม


ภาพ/ข่าว  ฉัตรมงคล สิงห์โต





ขับเคลื่อนโดย Blogger.