Header Ads

 


   ร้อยเอ็ด...พลเอกประวิตร  สั่งเตรียมพื้นที่ลุ่มต่ำลุ่มน้ำชีหวังตัดยอดน้ำก่อนหลากกระทบประชาชน



            รองนายกฯ ประวิตร สั่งการ สทนช. ลุยตรวจความพร้อมพื้นที่ลุ่มต่ำลำน้ำชีรองรับน้ำหลาก กรณีเกิดฝนตกหนักในพื้นที่เร่งดันแผนพัฒนาพื้นที่ลุ่มต่ำ 4 แห่งตามผังน้ำ รับน้ำนองเพื่อจัดการน้ำท่วมเก็บใช้หน้าแล้งซึ่งเก็บกักน้ำได้กว่า 230 ล้าน ลบ.ม.

                  เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 14 กันยายน 2564 ที่ สำนักงานโครงการชลทานร้อยเอ็ด อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด  นายปรีชา สุขกล่ำ ที่ปรึกษาด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมคณะประกอบด้วย นายบุญสม ชลพิทักษ์วงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ  นายเทิดพงศ์ ไทยอุดม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค ๓ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ  โดยมี นายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ ๖    นายองอาจ แสนอุบล ผู้อำนวยการส่วนวิศวกรรม สำนักงานซลประทานที่ ๖    นายจิรศักดิ์ มงคลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโครงการซลประทานร้อยเอ็ด ร่วมให้การต้อนรับ  

            นายปรีชา สุขกล่ำ ที่ปรึกษาด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)  กล่าวว่า  ภายหลังลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้า 10 มาตราการรับมือฤดูฝนนี้บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำลำน้ำยัง และความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำ และงานขุดลอกในพื้นที่ลุ่มน้ำยังกายใต้งบบูรณาการฯ ปี 2564 ณ ประตูระบายน้ำบุ่งงเบ้า ต.นาแชง  อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ว่า พื้นที่ลุ่มต่ำในลุ่มน้ำชีเป็นพื้นที่ที่มีน้ำท่วมซ้ำชากที่ทางกรมชลประทานและกรมทรัพยากรน้ำร่วมกับ สทนช. ร่วมกันกำหนดขอบเขตเพื่อที่จะศึกษาพัฒนาเป็นพื้นที่น้ำนอง เพื่อรับน้ำเข้าในช่วงน้ำหลากและกักน้ำไว้ใช้ในช่วงแล้ง

รวม 4 พื้นที่ ได้แก่ 1. พื้นที่ลุ่มต่ำลุ่มน้ำยัง ครอบคลุม จ.ยโสธร และ จ.ร้อยเอ็ด ขนาดพื้นที่รับน้ำ 389,163 ไร่ 2. พื้นที่ลุ่มต่ำชีจ.ชัยภูมิ ขนาดพื้นที่รับน้ำ 1,899 ไร่ 3. พื้นที่ลุ่มต่ำชี 2 จ.อุดรธานี ขนาดพื้นที่รับน้ำ 1,074 ไร่ และ 4. พื้นที่ลุ่มต่ำชีร้อยเอ็ด และ จ.มหาสารคาม ขนาดพื้นที่รับน้ำ 2,127 ไร่ ซึ่งจากข้อเสนอแนะตามผลการศึกษาผังน้ำลุ่มน้ำซีในพื้นที่ลุ่มต่ำ เสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาบริหารจัดการน้ำ ได้แก่ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ พิจารณาศึกษาจัดทำระบบบริหารจัดการน้ำเข้า - ออก ในพื้นที่ที่หมาะสมจะใช้กักน้ำ ระบายน้ำ ในลักษณะของพื้นที่น้ำนอง รวมทั้งพิจารณาด้านการชดเชยในกรณีที่มีผลกระทบต่อพื้นที่ประชาชน ส่วนหน่วยงานผังเมืองให้นำข้อเสนอแนะด้านการใช้ที่ดินในพื้นที่ลุ่มต่ำที่อาจมีน้ำชังในบางช่วงที่เสนอในผังน้ำไปปรับปรุงข้อกำหนผังเมือง เพื่อให้หน่วยงานท้องถิ่นที่ควบคุมการออกใบอนุญาตใช้ที่ดินนำข้อกำหนดดังกล่าวไปบังคับใช้ต่อไป

การใช้พื้นที่ลุ่มต่ำตามที่หน่วยราชการวางเป้าหมายไว้ รวมทั้งพื้นที่ทางน้ำหลากที่มีลักษณะเหมาะสมมาพัฒนาเป็นพื้นที่ซะลอน้ำในฤดูน้ำหลาก และกักน้ำไว้ชั่วคราวเพื่อใช้ในฤดูแล้ง จะช่วยบรรเทาอุทกภัยและการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำชีได้

              โดยในการศึกษาจัดทำผังน้ำพบว่าพื้นที่ข้างต้นสามารถชะลอน้ำ/กักน้ำได้ถึงประมาณ 230 ล้าน ลบ.ม  สำหรับแผนบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝนในลุ่มน้ำชี บริเวณ จ.ร้อยเอ็ด กรณีมีน้ำท่วมสูง กรมชลประทานมีแผนการชะลอน้ำจากแม่น้ำชีตอนบนที่เขื่อนมหาสารคามด้วยการลดบานระบายน้ำ และทำการควบคุมการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก จำนวน 23 แห่ง ด้านท้ายเขื่อนมหาสารคาม โดยจะปรับลดอัตราการระบายน้ำ และจะทยอยปรับลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ต้านท้ายน้ำ สำหรับทางด้านแม่น้ำมูล กรมชลประทาน จะทำการชะลอน้ำที่เขื่อนราศีไศลและเขื่อนหัวนา ให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ด้านท้ายน้ำ โดยจะติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับลดการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก จำนวน 57 แห่ง  อีกด้วย

          ด้านสถานการณ์นำในแม่น้ำยัง หลังจากที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่องมาหลายวัน นายจิรศักดิ์ มงคลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโครงการซลประทานร้อยเอ็ด กล่าวว่า ขณะนี้จากปริณมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น ทางสำนักงานโครงการชลประทานร้อยเอ็ด ยังสามารถรับมือได้อย่างแน่นอน หากไม่มีเหตุการณ์เกิดพายุขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง

         ในส่วนพี่น้องประชาชนชาวอำเภอเสลภูมิ ที่ ติดกับลำน้ำยัง เมื่อมีปริมาณฝนมากขึ้นน้ำมากขึ้นถึงฤดูน้ำหลากตามปกติ ก็สามารถทอดแห ตกสะดุ้ง ทั้งสะดุ้งขนาด และสะดุ้งแม่น้ำ เพื่อหาปลาเป็นอาหาร เลี้ยงครอบครัว เหลือก็ขายสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว ต่อไป

//////

คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ






ขับเคลื่อนโดย Blogger.