จบ.ป.6 ประดิษฐ์หุ่นยนต์ขยับได้เจ้าเดียวในนราฯหวังสร้างรายได้เลี้ยงชีพ
นายมูฮัมหมัดอาดัม ดาโอ๊ะ 28 ปี จบการศึกษาชั้นปีที่ 6 ใช้พื้นที่หลังบ้านพักเลขที่ 483 ถ.ประชาวิวัฒน์ ซอย 11 ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส สร้างเป็นโรงเรือนในการประดิษฐ์หุ่นยนต์รูปแบบต่างๆ มาเป็นเวลานานกว่า 2 ปี เน้นหุ่นยนต์เกือบทุกตัวสามารถขยับตัวได้เป็นอาชีพหลัก เพื่อนำรายได้มาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งทางบ้านมีฐานะไม่ค่อยจะดีนัก หลังจากที่ได้เลิกอาชีพเป็นกรรมกรตามไซต์งานก่อสร้างต่างๆในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก
โดยนายมูฮัมหมัดอาดัม ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตที่ผกผัน ก่อนที่จะมาดึงอาชีพประดิษฐ์หุ่นยนต์ที่สามารถขยับตัวได้ ในระหว่างที่กำลังใช้เครื่องเชื่อมไฟฟ้าประดิษฐ์หัวจักรรถไฟที่มีคนว่าจ้าง กล่าวว่า หลังจากที่เป็นกรรมกรตามไซต์งานก่อสร้าง ตนได้เป็นลูกมือของช่างเชื่อมตามไซต์งาน พอมีฝีมือที่สามารถเชื่อมชิ้นงานได้แต่ไม่ชำนาญมากนัก แต่งานที่ไซต์งานเริ่มไม่มั่นคง จึงมีแนวคิดที่จะยึดเป็นอาชีพงานช่างเชื่อม ประจวบเหมาะกับในช่วงนั้น คนเริ่มนิยมใช้โทรศัพท์มือถือกันมากขึ้น และมีการประชาสัมพันธ์ขายที่วางโทรศัพท์มือถือตามโลกโซเชียล จึงมีความคิดประดิษฐ์ที่วางโทรศัพท์มือถือในรูปแบบต่างๆ เพื่อฉีกแนวโดยใช้เศษชิ้นส่วนของโลหะต่างๆ ที่เชื่อว่าสามารถสร้างรายได้ และเป็นที่นิยมของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มขึ้นมาได้
นายมูฮัมหมัดอาดัม จึงได้นำเงินจำนวนหนึ่งไปหาซื้อเศษเหล็กและชิ้นส่วนโลหะ ตามร้านค้าที่รับซื้อของเก่า ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท แล้วนำมาเชื่อมติดกันในรูปแบบต่างๆ ตามแนวคิดโดยเน้นราคาไม่แพงและเหมาะสมกับชิ้นงาน ซึ่งจะสร้างชิ้นงานเล็กๆคนส่วนใหญ่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ อาทิ ที่วางโทรศัพท์มือถือรูปแบบต่างๆ ที่สามารถขยับได้ อย่างหุ่นยนต์ รถยนต์ โคมไฟ ที่มีราคาตั้งแต่ 290 บาท ถึงราคา 1,800 บาท ซึ่งพอจำหน่ายได้แต่ตลาดไม่กว้างมากนัก
จนกระทั่งวันนึ่งมีแนวคิดที่จะประดิษฐ์ชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น เพราะเชื่อว่าหากแล้วเสร็จสามารถที่จะสร้างรายได้เป็นเงินก้อนใหญ่ ที่จะนำมาจุนเจือครอบครัว เพื่อลดภาระของบิดามารดาและพี่สาว รวม 5 คน ที่ยึดอาชีพขายข้าวราดแกงริมฟุตบาทในแต่ละวัน ที่ขายดีบ้างไม่ดีบ้างตามสภาวะของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่กำลังแพร่ระบาด และได้ตัดสินใจเงินที่เก็บรวบรวมจากการประดิษฐ์ที่วางโทรศัพท์มือถือขาย นำไปซื้อเศษเหล็กและชิ้นส่วนโลหะมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งตนถือว่าเป็นเงินจำนวนมากสำหรับคนจนอย่างตน แล้วนำมาประดิษฐ์นกสลาตันเรือเหล็ก ที่มีขนาดใหญ่สูง 3 เมตรเศษ ซึ่งนกสลาตันเรือเหล็ก ประกอบไปด้วยสัตว์ 3 ชนิด คือ ผีเสื้อ เหยี่ยว และนกพิราบ ที่ขยับตัวโบยบินไปพร้อมกับเรือสำเภา ที่นายมูฮัมหมัดอาดัมให้ความหมายว่า ชีวิตที่โบยบินไปอย่างอิสระ โดยใช้แบตเตอรี่เป็นพลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า และใช้โซ่ของรถจักรยานยนต์เป็นกลไกในการขับเคลื่อนส่วนต่างๆของสัตว์ทั้ง 3 ชนิด พร้อมติดดวงไฟไว้ที่ตาของเหยี่ยว เพื่อให้เกิดแสงสว่างและดูมีชีวิต โดยนกสลาตันเรือเหล็กนี้ มีคนมาติดต่อขอซื้อในราคา 200,000 บาท แต่ยังไม่ตัดสินใจขาย เนื่องจากตนทุ่มเทแนวคิดเสียเวลาในการประดิษฐ์นานกว่า 3 เดือน ซึ่งถือว่ามีมูลค่าทางจิตใจมหาศาล และตั้งใจว่าจะนำผลงานชิ้นนี้ไปจัดตั้งในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ที่ได้มีการพูดคุยในเบื้องต้นกับนางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ที่ถือว่าเป็นคนหนึ่งที่มีพระคุณต่อตนเองและครอบครัว
นอกจากนี้แล้วจากการเดินดูรอบๆห้องเก็บชิ้นงานของนายมูฮัมหมัดอาดัม เรายังพบกับสิ่งประดิษฐ์อีกหลาหลาย ที่ถือว่าเป็นชิ้นงานขนาดเท่าของจริงแถมสามารถขยับตัวได้ อาทิ รถเวสป้า กุ้งมังกร รวมถึงเครื่องบินที่มีขนาดสัดส่วนลดหลั่นกันไป และอื่นๆอีกมากมายเพื่อรอการจำหน่ายและจับจองของกลุ่มบุคคลที่ชื่นชอบผลงานประดิษฐ์ด้วยเศษเหล็ก โดยราคาสามารถต่อรองกันได้
ด้านนายมูฮัมหมัดอาดัม กล่าวว่า ผมเริ่มทำงานประดิษฐ์นี้มา 2 ถึง 3 ปี ด้วยการซื้อหาวัสดุที่เหลือใช้จากร้านรับซื้อเศษเหล็ก แล้วนำมาประกอบเป็นหุ่นยนต์ที่ขยับตัวได้ ใครที่สนใจจะหาซื้อหรือสั่งทำสามารถติดต่อไป ที่โทรศัพท์มือถือ หมายเลข 093 6214115
นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
