Header Ads

 


ผวาทั้งชุมชนหนองตาสน หลังถูกแบ็คโฮบุกขุดรื้อพื้นทางการเกษตรทิ้งเสียหายเกลี้ยง


เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 4 มิถุนายน 2564 นายนพคุณ ชัยหงษา อายุ 54 ปี เกษตรกรเจ้าของพืชไร่ เดินทางแจ้งความร้องทุกข์ กับ พ.ต.อ.อภิชนัน วัฒนวรางกูร ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ หลังถูกนายทุนส่งแบ็คโฮ เข้าไปบุกรุกที่ดินทางการเกษตร แล้วขุดปรับที่ดิน จนได้รับความเสียหายทั้งหมด ในพื้นที่บ้านหนองตาสน ม.1 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยเปิดเผยว่าที่ดินบริเวณนี้เป็นสมบัติมรดกของพ่อแม่ มาหลายสิบปี ซึ่งตนเองใช้ปลูกพืชผักทางการเกษตรขายเลี้ยงชีพ แต่เมื่อวานที่ผ่านมาได้มีรถแบ็คโฮเข้ามาขุดปรับที่ดิน โดยไม่มีการแจ้งแต่อย่างใด ถึงวันนี้เข้ามาขุดปรับอีกครั้ง ทำให้พืชทางการเกษตร ได้รับความเสียหายทั้งหมด เป็นพื้นที่กว่า 2 งาน ซึ่งตนเองรู้สึกเสียใจเพราะพืชผลทางการเกษตร จะขายได้ในเดือนก็จะได้เงินแล้ว แต่บุกรุกเข้าไปโดยถือวิสาสะ มาทำแบบนี้เหมือนกับบ้านป่าเมืองเถื่อนไม่มีกฎหมาย เป็นตะไคร้ 2,500 กอ ต้นมะกรูด 130 ต้น อายุราว 1 ปี ต้นกล้วย ต้นแคร ซึ่งตนเองปลูกพืชหมุนเวียนมาหลายปีแล้ว
    
ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีการแจ้งเตือน เจรจาหรือแสดงหลักฐานใดๆทั้งสิน แต่จู่ๆก็ขับแบ็คโฮเข้ามาโดยมีบอดี้การ์ดคุมถึง 7 คน ตนเองแก่แล้วคงไม่กล้าที่จะทำอะไร โดยต่อจากนี้คงต้องปล่อยไปตามกระบวนการทางกฎหมาย สำหรับตนเองแล้วยังรู้สึกเสียใจมากกับกระบวนการทางกฎมายที่มีเหมือนไม่มี ในการกระทำเช่นนี้ หากผู้ที่บุกรุกเข้ามามีเอกสาร ก็น่าจะนำมาแสดง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยไกล่เกลี่ยตามกฎหมาย
    
       นอกจากนี้ยังมีกลุ่มชาวบ้านอีกกว่า 20 รายเดินทางมาร้องเรียนในเรื่องที่ดินตรงนี้ ในส่วนของที่ดินทับซ้อน ซึ่งชาวบ้านกลุ่มนี้อ้างว่ามีสิทธิ์ครอบครองตาม สิทธิทำมาหากินของกรมป่าไม้ โดยชาวบ้านได้ใช้ที่ดินบริเวณนั้น ปลูกพืชทางการเกษตรเพื่อเลี้ยงชีพ แต่อยู่ๆกลับมีแบ็คโฮเข้ามาขุด ซึ่งบางจุดที่ทีมแบ็คโฮเข้ามาสร้างแคมป์คนงาน ไม่มีเจ้าของมาติดต่อก็ไม่มีใครไปยุ่ง แต่ในส่วนของที่ดินที่ชาวบ้านมาร้องนั้น เพราะมาเรียกร้องในสิทธิ์ของที่ดินที่ครอบครองอยู่แล้วถูกทำลายทรัพย์สิน เป็นพืชทางการเกษตร ที่ปลูกไว้ขายเลี้ยงชีพ แต่กลุ่มคนเอารถแบ็คโฮเข้าไปปรับที่ดิน แล้วแจ้งว่าเป็นที่ของบริษัท
   
       นอกจากนี้ชาวบ้านยังได้เปิดเผยอีกว่า มีบ้างส่วนที่เข้ามาบุกรุก และมีบางส่วนที่พยายามเข้ามาไกล่เกลี่ย ให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่ค่าเสียหายของพืชไร่ เท่าไหร่ให้แจ้งมา หากมากไปก็จะไม่ได้ และต้องออกภายใน 7 วัน พร้อมข่มขู่จะเอาแบ็คโฮมาทุบบ้าน สร้างความหวาดผวาและความสะเทือนจริงให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพราะกลุ่มคนพวกนี้แจงว่าจะมารื้อไร่ตะไคร้ก็มาจริง ทั้งที่ชาวบ้านได้ห้ามปรามว่าเป็นพื้นที่ทำมาหากินแต่ก็ไม่มีใครฟัง ทำให้ชาวบ้านยิ่งเกิดความกลัวว่าจะมาทุบบ้านเรือนที่อาศัยอยู่จริงจึงรวมตัวกันมาแจ้งความร้องทุกข์

    ข่าวยังรายงานอีกว่าเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ขณะที่ชาวบ้านแจ้งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ คนงานก็กำลังเคลื่อนย้ายแบ็คโฮออกอย่างทันที ทำให้กลุ่มชาวบ้านต้องไปล้อมไม่ให้เคลื่อนย้าย จนเกือบเกิดเหตุการชุลมุน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมและตรวจยึดรถแบ็คโฮไว้ และจะดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมายเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายต่อไป

ภาพ/ข่าว สมชาย  โคตล่ามแขก





 

ขับเคลื่อนโดย Blogger.