ชลบุรี - หยุดยาว 3 วัน นักท่องเที่ยวแห่เข้าพื้นที่สัตหีบ ไหว้พระลอดโบสถ์ ทำบุญขอพรในช่วงวันมาฆบูชา

วันนี้ 28 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงวันหยุดติดต่อ 3 วัน ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 26 ถึงวันอาทิตย์ที่ 28 ที่ผ่านมานี้ ซึ่งเป็นวันมาฆบูชาด้วย และหยุดติดต่อกันในวันเสาร์อาทิตย์ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพื้นที่สัตหีบ จำนวนมาก ต่างก็มาจากหลายๆ จังหวัดซึ่งทางรัฐบาลก็ได้เปิดให้เดินทางข้ามจังหวัดได้ตามปกติหลังจากที่มีการปิดบางพื้นที่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระลอกที่สองที่ผ่านมา โดยที่บริเวณเขาเจดีย์ วิหารหลวงพ่อดำ วัดช่องแสมสาร มีสาธุชนจำนวนมากขึ้นไปสักการะองค์หลวงพ่อดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ และเยี่ยมชมบรรยากาศท้องทะเล วิววิถีชีวิตของชาวบ้านแสมสาร ซึ่งมีความงดงาม ร่มเย็น เป็นบรรยากาศที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศได้ไม่น้อยเลยทีเดียว และที่บริเวณวัดช่องแสมสารก็เช่นกัน สาธุชนจำนวนมากที่กราบไหว้สักการะหลวงพ่อดำเสร็จก็ลงมาบริเวณวัดเพื่อทำบุญลอดโบสถ์ราหู กราบไหว้ท้าวสหบดีพรหมองค์ใหญ่แห่งภาคตะวันออก และวันนี้หลวงพ่อสุภาพได้ลงมาเจิมกระเป๋า เจิมหน้าผาก ให้พรผู้ที่มาทำบุญในวันนี้ด้วยซึ่งก็มีผู้สนใจต่อคิวกันจำนวนมาก

วัดช่องแสมสาร ตั้งอยู่ใน ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี หรือบางครั้งประชาชนเรียกว่า วัดหลวงพ่อดำ ซึ่งหลวงพ่อดำนั้น มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า พระสัมพุทธมหามุนีศรีคุณาศุภนิมิต เป็นอีกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองชุมชนช่องแสมสารมาอย่างยาวนาน ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาเจดีย์ ซึ่งชาวประมงฝั่งตะวันออกนั้น ต่างเลื่อมใสและศรัทธากันอย่างมาก โดยในทุกๆ ครั้งก่อนออกทะเลก็จะไปนมัสการและขอพร เพื่อให้กลับมาโดยสวัสดิภาพ มีโชคให้ได้สินทรัพย์จากทะเลกลับมาอย่างมากมาย

พระพุทธรูปของ หลวงพ่อดำ นั้น จะเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิสูง 5 เมตร ใบหน้าอิ่มเอิบ ดวงตาทอดต่ำลงเหมือนเป็นการแผ่เมตตาให้กับผู้คนที่เดินทางมากราบไหว้ ซึ่ง หลวงพ่อดำรง ร่วมกับญาติโยม ช่วยกันบริจาควัสดุในการสร้างพระพุทธปฏิมากร ซึ่งได้รับศรัทธาร่วมมือด้วยดี ในสมัยนั้นยังไม่มีทางรถยนต์ จึงจำเป็นต้องใช้แรงงานคนแบกขนวัสดุขึ้นไป การสร้างใช้เวลาสร้างประมาณ 2 ปี จึงแล้วเสร็จ และทารักสีดำ ตั้งเป็นสง่าอยู่กลางแจ้ง โดยไม่มีหลังคาคลุมแต่อย่างใด หลังจากสร้างเสร็จประมาณ 1 เดือน ได้จัดงานฉลองพระและประกอบพิธีเบิกพระเนตร ในครั้งนั้นได้มีการผูกหุ่นฟาง 2 หุ่น เพื่อเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อดำ หลังจากเสร็จพิธีก็เผาหุ่นฟาง

หลวงพ่อดำ ได้ตั้งตากแดดอยู่กลางแจ้งเป็นเวลาถึง 10 ปีเศษ จนมีชาวประมงจากจังหวัดสมุทรปราการแล่นเรือผ่านมาเห็นหลวงพ่อดำตากแดด จึงบนขอพรว่าออกเรือเที่ยวนี้ขอให้ได้ 200,000 บาท จะมาทำหลังคาให้ ปรากฏว่าได้ดังคำขอจริงๆ จึงเอาเงินมาฝากให้นายเจริญ ทิศาบดี ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยทำหลังคา แต่ไม่มีฝา เมื่อฝนตกก็สาดเปียก ต่อมาชาวประมงอีกรายผ่านมา ก็บนหลวงพ่อดำอีก ขอให้จับปลาได้เยอะๆ จะมากั้นฝาให้ ปรากฏว่าได้สมหวังอีก ก็เอาเงินมาฝากผู้ใหญ่ให้ช่วยทำต่อไป สภาพวิหารหลวงพ่อดำในขณะนั้น จึงเป็นเพียงมีหลังคาและฝาไม้สามด้าน มีชาวบ้านและชาวเรือต่างขึ้นไปนมัสการกราบไหว้ เป็นจำนวนมาก และมักประสบผลสำเร็จ

หลังจากสิบปีผ่านไป สภาพของวิหารก็ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลาจนใช้งานไม่ได้ นายเสน่ห์ พิทักษ์กร สมาชิกสภาจังหวัดชลบุรี ได้ร่วมกับพระครูวิสารทสุตากร เจ้าอาวาส พร้อมชาวบ้าน ร่วมกันสร้างเป็นวิหารจตุรมุข ภายในมีจิตรกรรมฝาผนัง และมีภาพปูนปั้นเรื่องราวพุทธประวัติ ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน ครั้นสร้างเสร็จ ได้ทำพิธีเปิดวิหารอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2532 ในแต่ละวันจะมีประชาชนเดินทางไปนมัสการขอบนและแก้บนสิ่งสมปรารถนาอยู่เป็นประจำ เรื่องราวพุทธานุภาพปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อดำมีมาก จากคำบอกเล่าของผู้คนที่มาแก้บนแต่ละวัน จะเข้าสักการะแก้บนด้วยไข่ต้มและพวงมาลัยดอกไม้สด รวมถึงร่วมบริจาคเงินสมทบทุนให้กับวัดช่องแสมสารในการบูรณะสิ่งต่างๆ ตามความเชื่อว่าหลวงพ่อดำคุ้มครองรักษาให้ปลอดภัย และได้โชคลาภสิ่งที่สมปรารถนาไม่ขาดสาย จนหลวงพ่อดำที่ทารักสีดำ กลายเป็นหลวงพ่อดำสีทองเหลืองอร่ามไปทั่วทั้งองค์ในปัจจุบัน

และในปัจจุบัน พระครูวิสารทสุตากร เจ้าอาวาสวัดช่องแสมสาร ได้บูรณะขยายพื้นที่บริเวณวิหารให้ใหญ่ขึ้นเพื่อมีพื้นที่กว้างขวาง รองรับสาธุชนที่หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก เพื่อจะได้ไม่ต้องเปียกฝนเวลาฝนตก และไม่ร้อนเวลาแดดจ้า และไม่ต้องเบียดเสียดกันเวลามาทำบุญสักการะ ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่แล้วเสร็จ อยู่ในช่วงดำเนินการ สาธุชนที่ต้องการจะร่วมบุญในครั้งนี้สามารถทำได้ทุกวันที่วิหารหลวงพ่อดำ หรือที่วัดช่องแสมสาร หรือจะโอนเข้าบัญชีของวัด โดยเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ เพจวัดช่องแสมสาร

ภาพข่าว : สมนึก เชื้อสนุก