Header Ads

 


ราชบุรี - ป่าไม้ตรวจสอบที่ดินแม่ธนาธรอีกรอบ ก่อนเตรียมดำเนินคดี

วันที่ 5 มิ.ย.63 พ.ต.อ.ศราณุ โสมทัต ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผกก.5 บก.ปทส.) ได้เข้าตรวจสอบที่ดินกว่า 3,000 ไร่ ของนางสมพร  จึงรุ่งเรืองกิจ  แม่ของนายธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ  อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่  ซึ่งอยู่ในพื้นที่หมู่ 14 ต.รางบัว  อ.จอมบึง  จ.ราชบุรี อีกรอบพร้อมกับ นายพัฒนะ  ศิริมัย  ผอ.ศูนย์ป่าไม้ราชบุรี  นายชีวภาพ  ชีวธรรม  ผอ.สำนักป้องกันและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้  หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร  เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ และรับทราบผลการดำเนินงานตามเรื่องร้องเรียน กรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พปชร. แจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 19 ก.พ.63 ขอให้ตรวจสอบที่ดินในครอบครองของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และตามหนังสือ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ฉบับลงวันที่ 20 ก.พ.63 แจ้งกรมป่าไม้ ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายกับ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เนื่องจากเคยครอบครองที่ดินประเภท ภ.บ.ท.5 และ น.ส.2 แม้ปัจจุบันได้แสดงเจตนามอบที่ดินดังกล่าวให้กับรัฐเพื่อนำไปจัดตั้งป่าชุมชน แต่ถือเป็นความผิดสำเร็จแล้ว




    สำหรับที่ดินของนางสมพร  จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งมีทั้งหมดกว่า 3,000 ไร่ ที่ซื้อต่อมาจากโรงงานน้ำตาลแห่งหนึ่ง โดยมีทั้งหมด 77 แปลง ซึ่งแบ่งเป็นพื้นที่ที่มีโฉนด นส 3 ก. นส.3 และนส.2 ต่อมาชาวบ้านในหมู่ 14 ได้ไปขอคืนพื้นที่ที่เป็นป่าชุมชนและไปอยู่ในเขตพื้นที่ที่นางสมพร  ซื้อต่อมาในลักษณะเหมายกเข่งโดยไม่ทราบว่าเป็นพื้นที่อะไรบ้าง ซึ่งนางสมพรนั้นก็ยินดีจะคืนพื้นที่ให้  แต่เนื่องจากไม่รู้แนวเขต  จึงได้ให้ชาวบ้านนั้นได้ไปตรวจสอบแนวเขตเอาเอง  ทำให้ชาวบ้านได้ไปขอให้นางสาวปารีณา  ไกรคุปต์  ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ  เข้ามาช่วยเหลือในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่จะเข้ามาดำเนินการตรวจสอบที่ดิน จึงเป็นที่มาของการร้องเรียนว่านางสมพรนั้นบุกรุกป่า  และทำให้มีการตรวจสอบในปัจจุบัน แต่การมาตรวจสอบอีกรอบในครั้งนี้ของเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ บก.ปทส. นั้น

    นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้  หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร เปิดเผยว่า ที่มาตรวจสอบในวันนี้ประกอบด้วย ชุดพยัคฆ์ไพร  ร่วมกับทาง บกทปส. และทางส่วนปกครอง ทางผู้ใหญ่บ้าน และทางผอ.ศูนย์กรมป่าไม้จังหวัด ทั้ง 4 ฝ่ายก็มาร่วมกันตรวจสอบ ซึ่งต้องย้อนความเรื่องนี้ด้วยว่าตรงนี้มีการร้องเรียนจากทาง น.ส.ปารีณา ร้องเรียนเข้าไปว่า ทำไมไม่ดำเนินการ แต่ไปตรวจสอบแต่ที่ดินของเขาอย่างเดียว ต้องเรียนให้ทราบว่า ไม่ใช่ว่าไม่ได้ตรวจสอบ แต่ที่ดินทั้งหมดเราดำเนินการตรวจสอบมา ใช้เวลา พอสมควร เพราะว่ามันมีเอกสารสิทธิ์ อันนี้คือ นส.3ก นส.3 ธรรมดา และโฉนดด้วย มี3อย่าง ทั้งหมดต้องใช้นิติวิทยาศาสตร์มาช่วย ทั้งการอ่านแปรภาพถ่าย ดูระเบียบที่เกี่ยวข้องว่ามันออกมาได้ยังไง วันนี้เราก็ทำได้เกินครึ่งแล้ว รู้คร่าวๆแล้วว่ามันควรจะต้องเกี่ยวข้องอะไรยังไง จุดที่ยืนอยู่มันอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติทั้งหมด อันนี้คร่าวๆ ทีนี้พออยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเอกสารสิทธิ์พวกนี้มันออกก่อนประกาศป่าสงวน ป่าสงวนออกปี 2547 เอกสารสิทธิ์นี้ออกตั้งแต่ปี2521 ก่อนหน้าสักคน6-7ปี ก่อนจะมีเอกสารสิทธิ์มันมีเขตแนวป่าไม้ถาวร มันจะมาออกเอกสารสิทธิ์ได้อย่างไรมันมีระเบียบอยู่ แต่วันนี้เราเห็นคร่าวๆแล้วว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร ก็ต้องรอหน่วยงานรับรองมา คือเจ้าพนักงานที่ดินโดยกรมที่ดินต้องส่งข้อมูลมาให้เรา ถึงจะรู้ว่าออกโดยชอบหรือไม่ หากออกโดยไม่ชอบ  ก็จะส่งให้กรมที่ดินดำเนินการเพิกถอนต่อไป ที่ดินตรงนี้ก็จะกลับมาเป็นที่ดินของรัฐ กลับมาเป็นป่าสงวนที่ซ้อนทับกับปฏิรูปที่ดิน สุดท้าย บางจุดตรงนี้ก็มีชาวบ้านทำไร่มันสำปะหลังถามว่าดำเนินคดีหรือไม่ เราก็ต้องคัดกรอง พี่น้องชาวบ้านถ้าเขาอยู่ด้วยคุณสมบัติของเขาให้อาศัยทำกินอยู่ในที่ดินป่าสงวนได้ ก็ผ่อนปรน ตรงนี้ภาครัฐก็ดูแล พี่น้องชาวบ้านไม่ต้องตกใจ การดำเนินการคืบหน้าไปเยอะแล้วตอนนี้ก็พอรู้ทิศทางแล้วว่าจะเป็นยังไง  อย่างที่บอกว่าเดินมาเกินครึ่งละ เห็นลางๆว่ามันน่าจะออกโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย ก็ต้องเพิกถอน เดินหน้าไปเกินครึ่งแล้ว ตอนนี้สัก70% ก็ต้องรอกรมที่ดินตอบหนังสือมา ส่งสารบบที่ดินมาให้เราก็น่าจะฟันธงได้

สุจินต์ นฤภัย
ขับเคลื่อนโดย Blogger.