Header Ads

 


กรมประมง จังหวัดเลย : โครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในลุ่มน้ำสำคัญของประเทศ 62 จังหวัด 62 ล้านตัว ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน

 



กรมประมง จังหวัดเลย : โครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในลุ่มน้ำสำคัญของประเทศ 62 จังหวัด 62 ล้านตัว ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน


วันจันทร์ที่ 25 กันยายน 2566 


     นายทวีศุกดิ์ สกุณา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดเลยร่วมกับสำนักงานประมงจังหวัดเลย นำโดยนายสุนิติ จิรวงศ์สวัสดิ์ ประมงจังหวัดเลย

ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำโครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในลุ่มน้ำสำคัญของประเทศ 62 จังหวัด 62 ล้านตัว 


     # รมว.ธรรมนัส เร่งเดินหน้านโยบายรัฐบาล นรม.เศรษฐา “โครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในลุ่มน้ำสำคัญของประเทศ 62 จังหวัด 62 ล้านตัว” เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำ ดูแลเกษตรกรฐานรากให้มีรายได้เพิ่มขึ้น


     # ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานพิธีเปิดงานครบรอบวันสถาปนากรมประมง ปีที่ 97 ที่จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “97 ปี กรมประมง สร้าง เสริม เพิ่ม ยก พัฒนา ประมงไทย ก้าวสู่ศตวรรษใหม่อย่างยั่งยืน” และ “วันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2566 โดยมี นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมประมง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมอานนท์ กรมประมง พร้อมถ่ายทอดสดผ่าน Facebook live กรมประมง ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งเดินหน้านโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน “โครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในลุ่มน้ำสำคัญของประเทศ 62 จังหวัด 62 ล้านตัว” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำให้เป็นแหล่งอาหารโปรตีนของประชาชนและชาวประมง และเพื่อดูแลเกษตรกรฐานรากให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ตลอดจนมีความอยู่ดีมีสุข ซึ่งพันธุ์สัตว์น้ำที่ปล่อยในลุ่มน้ำสำคัญ จะเป็นสัตว์น้ำต้นทุนที่ช่วยฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ สร้างสมดุลระบบนิเวศ และเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับสิ่งแวดล้อม

    ซึ่งพันธุ์ปลาที่ปล่อย เป็นปลากินพืชจำนวน 1,000,000 ตัว ได้แก่ ปลาบ้า (ลูกตุ้มปลา) จำนวน 400,000 ตัว ปลากาดำ (ลูกตุ้มปลา) จำนวน 400,000 ตัว และปลาตะเพียนทอง ขนาด 2-3 ซม. จำนวน 200;000 ตัว ณ แม่น้ำเลย บริเวณวัดทรายมูล บ้านโป่ง ตำบลนาแขม อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย/////////

ข่าว อลงกรณ์ คุณกิตติมานนท์










ขับเคลื่อนโดย Blogger.