Header Ads

 


บุรีรัมย์ กู้ภัยไล่เองมูลนิธิเถื่อนตระเวนเรี่ยไร พบเคยถูกจับคดีเดียวัน

 



บุรีรัมย์ กู้ภัยไล่เองมูลนิธิเถื่อนตระเวนเรี่ยไร พบเคยถูกจับคดีเดียวัน


หน่วยกู้ภัย ฯบุรีรัมย์เห็นคาตา 3 หนุ่มมูลนิธิเถื่อนเปิดเครื่องเสียงขับรถประกาศรับบริจาคให้ผู้ยากไร้ ขับไล่บี้ขวางเรียกตำรวจมาควบคุมตัว พบประวัติเคยถูกจับมาแล้วคดีเรี่ยไร แต่ไม่เข็ดคาดได้เงินเป็นกอบเป็นกำ 


วันที่ 18 มิ.ย.66 หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม นำคลิปขณะไล่กวดและจอดรถขวางรถกระบะต้องสงสัยเป็นมูลนิธิปลอม มาร้องสื่อและให้เป็นหลักฐานของตำรวจ หลังจากพบโดยบังเอิญ มีชาย 3 คน ขับรถกระบะมีหลังคาด้านหลัง เปิดเครื่องกระจายเสียง ประกาศขอบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้


โดยในคลิป หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม บุรีรัมย์ ได้ใช้คำพูดที่รุนแรง ว่าไปซ้ำเติมชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจอยู่แล้ว ยังมาตามรีดไถประชาชน โดยเฉพาะคนภาคอีสานจะมีใจโอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือคน


ซึ่งมูลนิธิต้องสงสัยเป็นมูลนิธิเถื่อน ได้พยายามอธิบายว่า ได้ขออนุญาตมาอย่างถูกต้อง ทั้งผู้นำท้องถิ่น และขออนุญาตอำเภอห้วยราชอย่างถูกต้อง แต่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม ไม่เชื่อเพราะได้รับการร้องเรียนมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เคยเห็นกับตา


ต่อมา ร.ต.อ พงศ์ศักดิ์ จงปัตนา รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ห้วยราช อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้เชิญตัวนายเดชา มูลคำ อายุ45ปี อยู่ เลขที่ 3 ม.6 ต.ศิลาแลง อ.ปัว จ.น่าน พร้อมพวกอีก 2 คน มาสอบถาม 


ตรวจสอบหลักฐานพบว่า พบว่ามีใบประกาศระบุมาจากมูลนิธิพิทักษ์คุณธรรม อยู่เลขที่ 28/24 ซอยประชาอุทิศ 54 แยก 2-4 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ และยังพบใบรับทราบจากที่ว่าการอำเภอห้วยราช ระบุจะมาขออนุญาตเรี่ยไรตั้งแต่วันที่ 15-25 มิ.ย.


จากนั้น จนท.ได้สอบถามปลัดอาวุโส อำเภอห้วยราช ได้รับคำตอบว่า เอกสารที่ได้ไปเป็นเพียงเอกสารรับทราบ ยังไม่ได้ออกใบอนุญาตให้เรี่ยไรแต่อย่างใด ซึ่งปกติผู้ที่มายื่นขอเรี่ยไร จะต้องกลับมาเอาใบอนุญาตอีกในวันถัดไป ซึ่งจากการตรวจสอบแล้ว หนึ่งในสามคนนี้เคยถูกดำเนินคดีเรี่ยไรมาแล้ว ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ผิด พรบ.การเรี่ยไรโดยไม่ได้ข้ออนุญาต ขณะอำเภอห้วยราช งดการให้ใบอนุญาตเรี่ยไรในทันที


ทั้งนี้จากข้อมูลของหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม บุรีรัมย์ พบว่ามีประชาชนร้องเรียนมาหลายครั้งว่ามีมูลนิธิที่ไม่เคยรู้จัก มาเรี่ยไรตามหมู่บ้านหลายครั้ง และอยากให้หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมตรวจสอบ จนกระทั่งมาเจอขณะกำลังเรี่ยไร


สอบถามนายวัลลภ เรืองสุขศรีวงศ์ อดีตประธานมูลนิธิสว่างจรรยาธรรม ทราบว่าปกติมูลนิธิต่างๆที่มีจุดประสงค์จะช่วยเหลือประชาชนหรือผู้ยากไร้ จะมีประจำอยู่ในแต่ละพื้นที่อยู่แล้ว ประชาชนสามารถบริจาคโลงศพ หรืออื่นๆได้ในจังหวัดของตัวเอง ที่สำคัญไม่เคยไปเดินเรี่ยไรตามสถานที่ต่างๆแม้ในจังหวัดเดียวกัน จึงฝากไปถึงประชาชนทั่วไป หากต้องการทำบุญด้านนี้ บริจาคผ่านมูลนิธิในพื้นที่จะดีกว่า ทั้งนี้ไม่ได้หมายถึงจะไปห้ามไม่ให้บริจาค ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคน


ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง  จ.บุรีรัมย์  0951782496







ขับเคลื่อนโดย Blogger.