Header Ads

 


นนทบุรี เจอแล้วคนแจ้งตายลุงองอาจ ขณะ นอภ.เมืองนครสวรรค์ เตรียมออกบัตร ปชช.ใหม่

 


    จากกรณีนายองอาจ​ บุญฤทธิ์​  อายุ 65 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 110/1 พื้นที่หมู่ 3 ต.พระนอน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ประสบกับปัญหาความเดือดร้อนมานานกว่า 12 ปี จากการมีใบมรณบัตรเป็นของตนเอง ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้เสียชีวิตแต่อย่างใดจึงส่งผลทำให้ไม่สามารถต่ออายุบัตรประชาชนได้ รวมถึงยังไม่สามารถรับการช่วยเหลือค่าสวัสดิการต่างๆ ของรัฐได้ด้วย

   เบื้องต้นพบว่านายองอาจ ยังคงมีสุขภาพแข็งแรงดีและพักอาศัยอยู่ที่บ้านกับภรรยาเพียง 2 คน ส่วนลูกๆ ได้ไปมีครอบครัวและทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ กันหมดแล้ว ขณะที่ นายองอาจนำเอกสารหลักฐานมาให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกับเปิดเผยว่า เมื่อช่วงปลายปี 2553 ตนได้เดินทางไปติดต่อขอต่ออายุบัตรประชาชน ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองนครสวรรค์ แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับตนว่าไม่สามารถต่ออายุบัตรประชาชนให้ได้ เนื่องจากตนมีใบมรณบัตร ที่ได้แจ้งการตายเอาไว้เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2540

  โดยมีนายชูชาติ เดชเกล้า ได้แจ้งขอออกใบมรณบัตรไว้ที่เทศบาลนครนนทบุรีระบุ นายองอาจ​ บุญฤทธิ์ เสียชีวิตด้วยโรคปอดอักเสบ​ ที่โรงพยาบาล​โรคทรวงอก​ จ.นนทบุรี และได้แจ้งว่ามีการเคลื่อนย้ายร่างไปทำพิธีฌาปนกิจศพวัดมหาบุศย์ (แม่นาค)​ เขตพระโขนง​กรุงเทพ เมื่อวันที่​ 6​ พฤศจิกายน​ 2540

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 25 ก.ค.65 ว่าที่ร.ต.ณรงค์ชัย จินดาพันธ์ นายอำเภอเมืองนครสวรรค์ น.ส.นุชจรินทร์ เพรชรัตน์ ปลัดอำเภอเมืองนครสวรรค์ฝ่ายทะเบียนราษฏร์ นายณัฐพล ดิษฐ์วิบูลย์ ปลัดอำเภอบางบัวทองฝ่ายทะเบียนราษฏร์ เข้าพบนายชูชาติ เดชกล้า พนักงานรักษาศพ ส.2 รพ.โรคทรวงอก เพื่อสอบถามกรณีมีชื่อนายชูชาติเป็นผู้แจ้งการเสียชีวิตของนายองอาจ บุญฤทธิ์ อายุ 65 ปี โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชม.

ว่าที่ร.ต.ณรงค์ชัย กล่าวว่า วันนี้ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เดินทางมาพบนายชูชาติเพื่อสอบปากคำเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังการตรวจสอบพบว่ามีชื่อของนายชูชาติ เป็นผู้ที่แจ้งการเสียชีวิตของนายองอาจ จากการสอบปากคำพบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง มีการเสียชีวิตจริงแต่เป็นบุคคลอื่นที่เสียชีวิตแล้วมีชื่อนามสกุลตรงกับนายองอาจ โดยเจ้าหน้าที่ขณะนั้นไม่ได้มีการลงบันทึกเลข 13 หลักบัตรประชาชนของคนเสียชีวิตไว้ จึงเป็นเหตุให้เกิดความผิดพลาดเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้งพบว่าเอกสารการเสียชีวิตไม่ครบ จึงได้กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลักของนายองอาจซึ่งมีชื่อและนามสกุลตรงกันเข้าไปโดยเข้าใจผิดทำให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น หลักจากนี้เมื่อสอบปากคำพยานทั้งหมดครบแล้วว่าเป็นเรื่องผิดพลาดของระบบ ก็จะดำเนินการคืนสิทธิ์ให้กับนายองอาจ โดยจะออกบัตรประชาชนให้ใหม่ร่วมถึงสิทธิ์ต่างที่ต้องได้รับทั้่งหมดในวันพรุ่งนี้ที่อำเภอเมืองนครสวรรค์ต่อไป

นายชูชาติ กล่าวว่า กรณีของนายองอาจ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั่งแต่เมื่อปี 2540 ซึ่งมันนานมากแล้ว ตนจำไม่ได้แล้วว่าตอนนั้นเหตุการณ์เป็นอย่างไร แต่เวลาขณะนั้นตนทำหน้าที่เป็นพนักงานรักษาศพของรพ.โรคทรวงอก ก็ดำเนินการทุกอย่างไปตามระเบียบราชการและของรพ.ทุกอย่าง ปรกติแล้วผลรับรองการเสียชีวิตจะหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำตึกที่ดูแลรักษาผู้ป่วย ส่วนตนจะทำหน้าที่ออกเลขหนังสือรับรองการเสียชีวิต เพื่อนำไปขอใบมรณะบัตรที่สำนักงานทะเบียนราษฏร์เทศบาลนครนนทบุรีให้กับทางญาติผู้ป่วยที่เสียชีวิต ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นถ้าตนทำอะไรผิดพลาดไปตนก็ต้องขอโทษด้วย เพราะใจจริงตนไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงแต่อย่างใด แค่ต้องการดำเนินเรื่องช่วยเหลือให้กับญาติผู้ป่วยที่เสียชีวิตเท่านั้นเอง

  ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สำนักงานเทศบาลนครนนทบุรี พบกับพันจ่าอากาศเอกอนุรักษ์ ผอ.กองทะเบียนราษฎร์และบัตรประชาชนสำนักงานเทศบาลนครนนทบุรี โดยเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่าในปีที่เกิดเหตุคือเมื่อปี 2540 สำนักงานทะเบียนราษฎร์เทศบาลนครนนทบุรีได้รับข้อมูลจากนายชูชาติ พนักงานรักษาศพของโรงพยาบาลโรคทรวงอก โดยมีการให้ข้อมูลว่านายองอาจ บุญฤทธิ์ เสียชีวิตแล้ว ทางสำนักงานทะเบียนจึงได้ออกใบมรณะบัตรให้ตามระเบียบเนื่องจากมีข้อมูลหลักฐานถูกต้องแต่ปัญหาคือเมื่อเราส่งเอกสารไปที่สำนักทะเบียนกลาง ได้มีการกรอกข้อมูลบัตรประชาชน 13 หลัก ทำให้ประวัติข้อมูลทุกอย่างไปขึ้นที่นายองอาจ บุญฤทธิ์ชาวจังหวัดนครสวรรค์ ส่วนข้อมูลที่สำนักทะเบียนราษฎร์เทศบาลได้รับเป็นชื่อและนามสกุลเดียวกันแต่พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 104 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อกรุงเทพมหานคร เมื่อนายองอาจชาวนครสวรรค์ มาร้องเรียนขอให้ถอนใบมรณะบัตรทางสำนักทะเบียนเทศบาลนครนนทบุรีไม่สามารถออกใบมรณะบัตรให้ได้เนื่องจากผู้เสียชีวิตจริงคือนายองอาจ บุญฤทธิ์ ชาวกรุงเทพฯ ซึ่งมีชื่อและนามสกุลเดียวกัน ทางเราจึงได้ออกหนังสือให้กับ นายองอาจ ชาวนครสวรรค์เพื่อไปยื่นยังที่ว่าการอำเภอเมืองนครสวรรค์ในการขอทำบัตรประชาชนใหม่ ซึ่งขั้นตอนทุกอย่างสามารถทำให้ได้เลยตามกฎระเบียบข้อบังคับข้อที่ 99 หากนายอำเภอหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสามารถพิสูจน์ตัวตนของนายองอาจชาวนครสวรรค์รายนี้ได้ว่าเป็นผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่และเป็นคนละคนกับนายองอาจชาวกรุงเทพมหานคร ตามขั้นตอนการออกบัตรประชาชนให้ได้เลยแต่ตนก็ไม่เข้าใจว่า ทางโน้นติดปัญหาระเบียบเรื่องใดยืนยันว่าสำนักงานทะเบียนราษฎร์เทศบาลนครนนทบุรีออกไปมรณะบัตรให้ตามกฎระเบียบทุกอย่างอย่างถูกต้อง


ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต

จ.นนทบุรี








ขับเคลื่อนโดย Blogger.