Header Ads

 


ปทุมธานี นายกแจ๊สเร่งรักษาลูกชายด้วยการสะกิดหลอดเลือดพร้อมเผยสมุนไพรอังกาบหนูทดสอบสารพิษ

 

    



เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 มิถุนายน 2565 ที่คลินิกการแพทย์แผนไทย มูลนิธิมงคล-จงกล ธูปกระจ่าง ตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้ทำการรักษา ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง (นายกโบว์ลิ่ง) นายกเทศมนตรีนครรังสิต ซึ่งเป็นลูกชาย หลังจากที่มีอาการหน้ามือ เบลอ วูบเกือบหมดสติ มือเขียวและสั่น และได้รักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างตามที่เป็นข่าว ไปแล้วนั้นในวันนี้ได้ทำการรักษาด้วยวิธีการสะกิดหลอดเลือดดูเลือดเสียออกมาเพื่อให้เลือดดีสามารถไหวเวียนไปหล่อเลี้ยงหัวใจและสมองได้ตามปกติ 

    จากอาการของ ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง (นายกโบว์ลิ่ง) นายกเทศมนตรีนครรังสิต แพทย์แผนปัจจุบันขณะนี้ยังไม่สามารถระบุอาการได้ ยังคงต้องรอผลการตรวจเลือดจาก ตรวจวิทยาศาสตร์อีกครั้งทางนายกแจ๊สจึงได้ใช้สมุนไพรชื่อ“ต้นอังกาบหนู” ซึ่งเป็นสมุนไพรพื้นบ้าน ทดสอบพบว่าร่างกายได้รับสารพิษ เพราะเมื่อเคี้ยวใบสมุนไพรแล้วลิ้นมีสีดำ แต่คนอื่นๆที่ทดสอบกลับมีสีลิ้นที่ปกติ ในวันนี้จึงทำการทดสอบโดยมี สจ.สุ นายสุริยา ธรรมธารา สมาชิกสภา อบจ.เขต 1 อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี และนายประสิทธิ์ ปานแสงเพชร อายุ 64 ปี พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว ได้ทดลองเคี้ยวใบอังกาบหนู ผลการทดสอบทั้งสองคนลิ้นไม่เปลี่ยนสี ถือว่าไม่ผิดปกติ

    พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากการตรวจสอบพบว่าอาการของนายก โบลิ่งนั้นเกิดจากการขาดเลือดเฉียบพลัน สิ่งที่เราทำคือ สะกิดที่บริเวณหัวใจเพื่อดูดเอาไขมันหรือสิ่งอุดตันที่อยู่บริเวณหัวใจออกมา เมื่ออกมาแล้วเลือดดีจะวิ่งเข้าไปเลี้ยงแทน ส่วนบริเวณใบหน้าเราจะเคลียร์หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เมื่อออกมาจากโรงพยาบาลไปทำไป 1 ครั้งแล้ว และวันนี้ได้มาทำเป็นครั้งที่ 2 จากนี้อีก 3 วันจะทำอีก 1 ครั้ง เป็นครั้งที่ 3 จะเห็นว่าหลังจากที่ดูดเลือดออกมาหน้าเขาจะเริ่มแดงและเปลี่ยนสี เพราะว่ามีเลือดดีวิ่งมาเลี้ยง เนื่องจากอาการของการขาดเลือดเฉียบพลันอาจจะทำให้เซลล์สมองบางส่วนขาดออกซิเจนไปแต่ยังไม่ถึงกับตาย เมื่อเราทำแบบนี้ทำให้เลือดวิ่งมาเลี้ยงสมองได้อย่างเต็มที่ ก็จะทำให้ชดเชยออกซิเจนที่เสียไป ผมมั่นใจเลยว่ารักษาอีกครั้งเดียวก็จะกลับมาปกติ ซึ่งก่อนรักษานั้นเขามีอาการตาลอย หน้าซีด หลังจากที่รักษาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้ง อาการก็เริ่มกลับมาดีแล้ว ส่วนวิธีรักษาด้วยการสะกิดหลอดเลือดนั้นจะมีน้ำสมุนไพรต้มมีตัวยาอีก 16 ชนิด แต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน บางตัวลดอาการอักเสพ บางตัวรักษาแผล บางตัวไอของสมุนไพรจะซึมไปในแต่ละจุดที่ผมสะกิด บางตัวจะไปสะลายไขมันในเลือด เพราะฉะนั้นไขมันอุดตันจะไหลออกมาในจุดที่ผมใช้เข็มสะกิด จากนั้นเลือดดีก็จะวิ่งๆได้แล้ว 

       นอกจากนี้มีพี่น้องประชาชนได้สอบถามเข้ามาเยอะมาก เนื่องจากนาทีนี้มีคนต้องการทราบ และหากเกิดประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่ ผมจึงต้องมาอธิบาย ต้องบอกว่าต้นไม้สมุนไพรที่ผมให้ลูกชายเคี้ยวและกลืนไป คือต้นอังกาบหนู มีคุณสมบัติเด่น ๆ ในตำราสมุนไพรหลายอย่างไปหาดูได้ ที่สำคัญที่สุดในใบจะมีสารตัวหนึ่ง หากสารตัวนี้ไปเจอกับสารพิษที่ตกค้าง เมื่อสารพิษที่เรากินเข้าไปจะติดอยู่ที่เมือกในลำคอในบางส่วน ผมจึงให้เขาเคี้ยวสมุนไพรตัวนี้ให้ละเอียดและกลืนไปจำนวน 10 ใบ ลิ้นเขามีสีดำ แสดงให้เห็นว่ามีสารพิษแน่นอน ซึ่งเป็นสมุนไพรที่ราคาไม่แพง ควรมีติดบ้านไว้เพราะมีคุณสมบัติหลายอย่าง ซึ่งผู้ที่รู้จริงรู้มากกว่าผมคือ พระมหาขวัญชัย อคุคชโย เจ้าอาวาสวัดคีรีวงก์ จ.ชุมพร หากคนปกติไม่ถูกยาพิษเมื่อเคี้ยวแล้วลิ้นจะไม่ดำ และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เมื่อพี่น้องประชาชนอยากรู้ผมจึงจำเป็นต้องเปิดเผย ผมไม่ได้มาโฆษณา แต่เราทดลองใช้แล้วเป็นแบบนั้นจริง ๆ โดยวันนี้ได้ทดลองกับ  สจ. และกับประชาชน ผลก็คือ เมื่อเขียวไปแล้วไม่พบว่ามีลิ้นดำซึ่งถือว่าเป็นอาการของคนปกติ

      ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง (นายกโบว์ลิ่ง) นายกเทศมนตรีนครรังสิต กล่าวว่า ก่อนรักษารู้สึกว่าหนักและมึนศีรษะ เมื่อวันนี้มารักษาครั้งที่ 2 ก็รู้สึกโล่งขึ้นเยอะเลย ตาก็สว่างขึ้น ในส่วนของการทำงานผมไม่กลัวที่จะไปพบประชาชน ซึ่งหลายคนเป็นห่วง ผมไม่ให้ผมลงพื้นที่ในช่วงนี้เพราะกลัวจะเป็นอันตราย แต่ผมไม่กลัว เนื่องจากเราตั้งใจที่จะทำเพื่อประชาชนอยู่แล้ว ผมก็เห็นคุณพ่อทำงานเพื่อประชาชนมาตั้งแต่เด็ก เราเองก็ซึมซับพวกนี้ การที่จะมาทำกันแบบนี้ ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ และผมก็จะไม่หยุดทำงานเพื่อประชาชน เพราะว่าเราตั้งใจที่จะมาทำงานจิตอาสาเพื่อประชาชนจริง ๆ ขอให้ร่างกายแข็งแรงดีกว่าหน่อยจะได้ลงพื้นที่ต่อเท่านั้นเอง ผมไม่กลัวเพราะผมมีหมอดี และผมก็เต็มที่เพื่อประชาชนครับ.






ขับเคลื่อนโดย Blogger.