Header Ads

 


นครสวรรค์ - ปปป.สนธิกำลังปฏิบัติการสายฟ้าแลบ ตรวจค้นบ้านไวยาวัจกร วัดห้วยด้วน


วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) สนธิกำลังร่วมกับ ตำรวจ บก.ปคม. ตำรวจ บก.รฟ. ตำรวจ บก.ปอท. ตำรวจ บก.ทล. และ พ.ต.อ.เดชา ศรีชัย ผกก.สภ.หนองบัว เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 70 นาย ลงพื้นที่เข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ 103/4 หมู่9 ต.ธารทหาร อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นบ้านของนายเสนาะ ทองปรอน เพื่อตรวจค้นหาพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม รวมถึงตามอายัดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาขบวนการทุจริตยักยอกเงินของวัดห้วยด้วน ไปเป็นของตนเอง มาดำเนินการตรวจสอบหาที่ไปที่มาของทรัพย์สินดังกล่าว  โดยก่อนหน้านี้ได้อายัดเงินกว่า 60 ล้านบาทกับกลุ่มคนสนิทของหลวงพ่อพัฒน์   พร้อมเร่งตรวจสอบเส้นทาง จากการตรวจค้นพบเงินสดจำนวนหนึ่ง พระเครื่อง โฉนดที่ดิน ทองรูปพรรณ พระเครื่องที่เป็นเนื้อทองคำ มีดหมอ และอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกการตรวจยึด เพื่อนำไปตรวจสอบที่มาของเงิน พระเครื่อง โฉนดที่ดินและตรวจสอบเอกสารการครองครองอาวุธปืนว่าถูกต้องหรือไม่อย่างไร  

       โดยก่อนหน้านี้เมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา  ได้มีกลุ่มลูกศิษย์ของพระราชมงคลวัชราจารย์ (หลวงปู่พัฒน์ ปุญฺญกาโม) เจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน เข้าร้องทุกข์กับทาง บก.ปปป. ให้ช่วยตรวจสอบ กลุ่มไวยาวัจกรของวัดห้วยด้วนและคนใกล้ชิด ที่มีอํานาจหน้าที่ดูแลรักษาจัดการทรัพย์สินของวัด หลังพบมีพฤติการณ์ต้องสงสัยทุจริตยักยอกเงินของวัดห้วยด้วน และมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการกิจนิมนต์และการดูแลสุขภาพของหลวงพ่อพัฒน์ฯ  พร้อมขอให้ตรวจสอบทรัพย์สินของบุคคลกลุ่มดังกล่าว 

          ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. จะนำกำลังลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนพบว่าในช่วงระหว่างปี 2563-2564 มีประชาชนผู้ใจบุญนำเงินมาทำบุญมอบให้วัดเป็นเงินรวมกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้มีบางส่วนประมาณ 30 - 40 ล้านบาท ที่ทางวัดได้นำไปใช้ทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคม หรือ สร้างโรงเรียนให้กับประชาชนในพื้นที่ ส่วนที่เหลือไม่ทราบว่าถูกนำไปใช้ทำอะไร  จึงได้ตรวจสอบกลุ่มไวยาวัจกรและคนใกล้ชิดหลวงพ่อพัฒน์ คือ นายเสนาะ ทองปรอน, นางชัญญา เพชรสายบัว และนางบุญเชิด สุขจิตร อย่างละเอียด ก่อนพบหลักฐานที่แน่ชัดแล้วว่าทั้ง 3 ราย มีการนําเงินของวัดไปเข้าบัญชีในชื่อตนเอง รวมเป็นเงิน 63,034,470 บาท จึงได้อายัดเงินดังกล่าวนำกลับมาส่งมอบคืนให้กับ หลวงพ่อพัฒน์ พร้อมกับเชิญตัวบุคคลทั้ง 3 คนมาทำการสอบปากคำและดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายภ พร้อมเร่งติดตามเงินส่วนที่เหลืออีกหลายสิบล้านบาทนำกลับมาคืนวัด ก่อนจะมีการสรุปสํานวนการสอบสวนส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาจนมีความเห็นให้ส่งคดีดังกล่าวกลับมาให้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย

ภาพ/ข่าว  ภคพล ครองสิน


















ขับเคลื่อนโดย Blogger.