Header Ads

 


ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์เป็นประธานกล่าวเปิดงานกิจกรรมวันรักต้นไม้ ประจำของปีชาติ พศ.2564




วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม 2564 ที่วัดกลิ่นลอยบุผาราม หมู่.1 ตำบลน้ำริด อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ นายผล ดำธรรมผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์เป็นประธานกล่าวเปิดงานกิจกรรมวันรักต้นไม้ ประจำปีของชาติ 2564

ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2533 กำหนดให้ วันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทร์ทราบรมราชชนนีในวันที่ 21 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันบำรุงรักษาความสมดุลของธรรมชาติเพื่อน้อมรำลึกถึงพระราชปณิธานอย่างแรงกล้าที่จะฟื้นฟูความสมดุลของธรรมชาติโดยการปลูกและบำรุงต้นไม้ด้วยพระองค์เองมาตลอดพระชนม์ชีพ และทรงให้ความสำคัญของการบำรุง รักษาต้นไม้ที่ปลูกว่ามีความสำคัญและน่าเป็นห่วงมากกว่าการปลูกต่อมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2533 ได้เปลี่ยนชื่อจากวันบำรุงรักษาต้นไม้ประจําปีของชาติมาเป็นวันรักต้นไม้ ประจำปีของชาติ จนกระทั่งมาถึงทุกวันนี้ วันรักต้นไม้ประจําปีของชาติ พ. ศ. 2564 ในปีนี้จังหวัดอุตรดิตถ์ได้กำหนด จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นในวันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม 25564 ณ วัดกลิ่นดอยบุปผาราม หมู่ 1 ตำบลน้ำริดอำเภอเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์เพื่อเรียนเชิญส่วนราชการพ่อค้าประชาชนและหน่วยงานต่างๆที่ภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่ว ด้วยการพรวนดินใส่ปุ๋ยกำจัดวัชพืชโรคแมลงตัดแต่งกิ่งไม้และรดน้ำต้นไม้ในพื้น ที่ได้ปลูกต้นไม้ตามโครงการปลูกป่าเพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำป่าชายเลนและป้องกันไฟป่ากิจกรรมในวันนี้มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 


ขัอ1. ต้นไม้ที่ปลูกไว้ตามโครงการปลูกป่าเพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำป่าชายเลนและป้องกันไฟป่าของจังหวัดอุตรดิตถ์เมื่อวันที่เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 

ข้อ 2 เพื่อชี้นำให้ประชาชนร่วมมือร่วมใจ การบำรุงรักษาต้นไม้ที่ปลูกไว้ตามสถานที่ต่างๆโดยพร้อมเพียงกัน

 ข้อ 3 เพื่อให้ประชาชนเ เห็นความสำคัญของการบำรุงต้นไม้ที่ปลูกไว้ อันจะบรรลุวัตถุประสงค์ พื้นที่สีเขียวของการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวเพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีถวายเป็น พระราชสักการะ สมเด็จพระศรีนริรทราบรมราชชนนี

การจัดกิจกรรม วันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ พศ.2564 ในครั้งนี้ จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการทุกภาค ส่วนหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐภาคเอกชน เป็นอย่างดี ทำให้การจัดงานในวันนี้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ทุดประการ


นาคา  คะเลิศรัมย์(ผู้สื่อข่าว)





ขับเคลื่อนโดย Blogger.