Header Ads

 


 ปทุมธานี น้ำล้นคลองข้ามถนนเข้าบ้าน ทุกฝ่ายร่วมมือช่วยเหลือประชาชน



    เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ที่บริเวณหมู่2 คลอง 13 ตำบลศาลาครุ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี นายจรูญศักดิ์ สิงหเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งจาก นายสุริยา ธรรมธารา สจ. เขต อำเภอหนองเสือ ว่ามีน้ำล้นทะลักบริเวณหมู่ 2 คอลง 13 อำเภอหนองเสือ เข้าบ้านเรือนประชาชนจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมสั่งการช่วยเหลือ

   เนื่องจากกรมชลประทาน ได้ประเมินปริมาณฝนที่ตกหนักสะสมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบน และลุ่มน้ำป่าสัก ซึ่งคาดว่ามีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในอัตรา 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อีกทั้งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำไหลลงเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเพื่อรักษาเสถียรภาพความปลอดภัยและความมั่นคงของเขื่อน จึงจำเป็นต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในอัตรา 900-1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้มีปริมาณน้ำที่ผันเข้าคลอง 13 กระทบกับประชาชนเกษตรกรเนื่องจากน้ำได้เอ่อล่นผิวจราจรเข้าพื้นที่เกษตร

    ด้าน นายสุริยา ธรรมธารา กล่าวว่า ได้รับแจ้งตั้งแต่ช่วงเช้าว่าน้ำได้เอ่อล้นจากคลองส่งน้ำที่ 13 ตำบลศาลาครุ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ชาวบ้านบอกว่าน้ำเริ่มเข้าท่วมพื้นที่เกษตรตั้งแต่ตี 4 ผมและนายสมบัติ วงค์กวน สจ.เขตหนองเสือได้มาสำรวจและได้รายงายไปยัง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี และทีมงานได้เข้ามาแก้ปัญหา โดยสั่งทรายและเอาทรายใส่กระสอบ จะเอามาป้องเป็นคันกั้นน้ำชั่วคราว นอกจากนี้ทางชลประทานได้นำรถแบคโฮขุดดินเป็นคันกั้นน้ำเสริมด้วย

     ส่วน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า วันนี้ผมได้ประชุมร่วมกับ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เนื่องจากวันนี้ท่านเดินทางมารับตำแหน่ง ท่านมีความเป็นห่วงเรื่องน้ำจึงได้เรียกประชุมทุกฝ่ายเข้ามารายงาน เพื่อรับฟังสถานการณ์ จากนั้นจึงได้ลงพื้นที่แล้วมาพบท่านจรูญศักดิ์ สิงหเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ส่วนสาเหตุที่น้ำเอ่อท่วมนั้นเพราะทางชลประทานได้ผันน้ำเข้ามา จนกระทั่งมีพี่น้องประชาชนได้ร้องเรียนเข้ามาว่าน้ำได้ท่วมพื้นที่เกษตรซึ่งอาจจะทำให้พี่น้องเกตรกรเสียหาย เบื้องต้นได้มอบหมายให้ นายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีลงพื้นที่มาดูแลตั้งแต่เช้า โดยประสานงานกับเจ้าหน้าที่กรมชลใช้รถ แม็คโฮกทำคันดินกั้นน้ำ รวมถึงนำวัคพืชที่อยู่ในคลองออกเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการที่น้ำจะไหลไปตามคลองระบายน้ำเพื่อลงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ หากกรมชลประทานปรับการปล่อยน้ำจาก 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเป็น 80 แล้วผันน้ำแค่ 50  น่าจะช่วยได้ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำวันต่อวัน เมื่อพบเห็นว่าน้ำได้เอ่อล้นข้ามผิวจราจรไปขอให้แจ้งมา เรามีทีมงานที่จะดำเนินการ และตนจะไม่ยอมให้ถนนถูกน้ำตัดขาดการจราจรแน่นอนวันพรุ่งนี้จะมีเรือโป๊ะรถแบคโฮมาแต่งริมคลองให้เรียบร้อย เพื่อเปิดทางให้น้ำได้ไหลได้สะดวก 

    ทางด้าน  นายจรูญศักดิ์ สิงหเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า  ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้ตนลงมาดูในพื้นที่ พบว่าการบริหารจัดการน้ำของชลประทานเป็นได้ด้วยความเรียบร้อยให้สอดคล้อยกับข้อเท็จจริง ต้องขอขอบคุณท่านนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีที่ท่านมีความเป็นห่วงเป็นใยมาพบกัน เนื่องจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดท่านก็สั่งผมมาด้วยเพื่อให้ทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่าน ขอให้พี่น้องชาวปทุมธานีมีความสบายใจ ทางราชการได้ร่วมมือกันทุกฝ่าย ได้บริหารจัดการในเรื่องของน้ำที่เป็นข้อกังวนของพี่น้องประชาชนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและราบรื่น เท่าที่ดูสถานการณ์ในปัจจุบันยังไม่น่าเป็นห่วง เพราะทุกฝ่ายได้เฝ้าระวังอย่างเต็มที่และระดมสรรพกำลังทุกอย่างเพื่อเตรียมความพร้อมโดยทางกรมชลไดลด ปริมาตรการปล่อยน้ำจากประตูระบายน้ำหนองแคเข้าสู่จังหวัดปทุมธานีเพียง 80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีซึ่งคาดว่าไม่น่ามีปัญหาหนักในการจัดการบริหารน้ำ เพราะในจังหวัดปทุมธานีเป็นเขตการบริหารของกรมชลประทานสามารถประสานงานต่อเนื่องสัมพันธ์กันได้ตลอดเวลา.






ขับเคลื่อนโดย Blogger.