Header Ads

 


 นนทบุรี คืบหน้า คืบหน้ารปภ.หมู่บ้านดังที่ถูก2 วัยรุ่นตีหัวแตกช่วงเคอร์ฟิวส์แจ้งความ3 ข้อหาหนัก

   


    จากกรณีนายธนบดี สวัสดิ์ไธสงค์ อายุ 48 ปี รปภ.ที่ได้รับบาดเจ็บถูกตีจนหูซ้ายฉีกเย็บ 9 เข็บบริเวณป้อมยามหมู่บ้านสิรารมย์ ตำบลพิมลราช อำเภอบางบัวทองจังหวัดนนทบุรี

ผู้ก่อเหตุเป็นชายวัยกลางคนสองคนขับเก๋งลงมารุมทำร้าย รปภ.ของหมู่บ้าน จนได้รับบาดเจ็บต้องเย็บถึง 9 เข็ม สาเหตุเพียงแค่ รปภ. เตือนว่าเป็นช่วงเวลาเคอร์ฟิว แล้วยังไม่มีบัตรผ่านเข้าออกภายในหมู่บ้านทำให้ชายหนุ่มทั้งสองคนเกิดความไม่พอใจลงมารุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บก่อนจะขึ้นรถขับหลบหนี ผู้บาดเจ็บได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสภ. บางบัวทองเมื่อช่วงเวลา 03.00 น. ของคืนที่ผ่านมา เพื่อให้ช่วยติดตามคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ด้วย

  ภาพจากกล้องวงจรปิด หน้าหมู่บ้านดังกล่าวสามารถจับภาพรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้าขับเข้ามาจอดบริเวณหน้าป้อมยาม มีชาย 2 คนเดินลงมาจากรถอายุประมาณ 30 ถึง 35 ปี คนแรกใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาวสวมแมส ส่วนชายอีกคน สวมเสื้อยืดสีขาวแขนสั้นกางเกงขาสั้นสวมรองเท้าแตะสะพายกระเป๋าใส่แมสบริเวณใบหน้า เดินตามชายคนแรกมาโดยชายคนแรก ได้เข้าไปพูดคุยโต้เถียงกับทางผู้เสียหาย สักพักชายเสื้อขาวเดินมาหยิบที่ตักขยะตีเป็นกรวยอลูมเนียมตีเข้าไปที่บริเวณศีรษะของผู้เสียหายหลายครั้ง กล้องอีกมุม จับภาพชายเสื้อขาวถือที่ตักขยะเดินไปเดินมามีการพูดจาท้าทาย ข่มขู่และชี้หน้าผู้เสียหาย และจะเดินเข้าไปทำร้ายทำให้ผู้เสียหายต้องถือเก้าอี้เพื่อป้องกันตัวก่อนทั้งสองคนจะแยกย้ายกลับไป

     ล่าสุดเมื่อเวลา15.00 น.วันที่ 16 ก.ค.64 นายธนบดี สวัสดิ์ไธสงค์ อายุ 48 ปี  รปภ.ที่ได้รับบาดเจ็บถูกตีจนหูซ้ายฉีกเย็บ 9 เข็บพร้อมด้วยนายบัญชา สิตะรุโณ อายุ 53 ทนายความเดินทางมาที่สภ.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำและแจ้งความเพิ่ม

    นายธนบดี กล่าวว่า มาสอบปากคำเพิ่มเรื่องคดี แต่ยังไม่เสร็จต้องเอาหลักฐานมาเพิ่มเติมอีก ส่วนที่ว่าผู้ก่อเหตุติดต่อมาเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน ส่วนถ้าคู่กรณีติดต่อมาก็ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ตอนนี้รอหลักฐานเพิ่มเติม เพราะยังขาดหลักฐานอยู่บางส่วน

   นายบัญชา เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ตอนนี้แจ้ง 3 ข้อหาคือ 

1 ทำร้ายร่างกายให้เกิดอันตรายแก่ก่ยและจิตใจ  2 บุกรุกโดยใช้กำลังประทุศร้ายหรือขู่เขญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธหรือ กระทำความผิดตั้งแต่  คนขึ้นไปและกระทำความผิดในเวลากลางคืน และ 3 ฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉิน ขึ้นอยู่กับผู้เสียหายว่าถ้าเจรจาจะยอมความยังไง แต่อยากให้เป็นกรณีตัวอย่างเพราะในหมู่บ้านเกิดเหตุแบบนี้บ่อย รถผ่านมาข่มขู่ ก็เลยอยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อันนี้ก็เป็นสิทธิของผู้เสียหายถ้าเจรจาจบลงได้ เป็นคดียอมความได้

     เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนสภ.บางบัวทอง อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  ฉัตรมงคล สิงห์โต






ขับเคลื่อนโดย Blogger.