Header Ads

 


สุโขทัย แพทย์พยาบาลท้อใจคนไข้ปกปิดไทม์ไลน์เป็นเหตุกักตัว8พยาบาลหนึ่งในนั้นกำลังตั้งครรภ์



 จากกรณีคนไข้โรงพยาบาลคีรีมาศ จ.สุโขทัย ปกปิดไทม์ไลน์เป็นเหตุกักตัว 8 พยาบาลหนึ่งในนั้นกำลังตั้งครรภ์หลังได้รับผลกระทบ แพทย์และพยาบาลยังคงตอบด้วยความมั่นใจว่ามันคือหน้าที่ คือวิชาชีพ ทุกคนยังคงพร้อมปฎิบัติหน้าที่บุคลากรทางการการแพทย์อย่างเต็มที่ ถึงแม้จะเจอกับสถานการณ์ที่การบั่นทอนความรู้สึกบ้าง  และขอเพียงช่วยกันเชฟบุคคลกรทางการแพทย์เพื่อจะได้ดูแลผู้ป่วยต่อไป

 นายแพทย์ชุมพล นุชผ่อง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย  วอนผู้ป่วยอย่าปิดบังไทม์ไลน์  เนื่องจากทางโรงพยาบาลคีรีมาศ ได้รับผู้ป่วยชาย อายุ 62 ปี เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ด้วยอาการมีไข้และกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และได้ซักประวัติตามมารตราการป้องกันโรคระบาดโควิด-19  ถึง 5 ขั้นตอน จึงรับไว้เป็นคนไข้ใน  และได้รับการดูแลจากพยาบาลอย่างใกล้ชิด จากนั้นพบว่าอาการไม่ดีขึ้น  จึงนำตัวไปเอ๊กซเรย์ปอดและตรวจหาโควิค-19 พบผลเป็นบวก และเป็น รายที่ 320 ของ จ.สุโขทัย  ทำให้พยาบาล 8 คนต้องกักตัว  และหนึ่งในนั้นยังไม่ได้รับวัคซีนเลยเนื่องจากกำลังตั้งครรภ์   อีกทั้งผู้ป่วยอีก 4 คนที่พักรักษาตัวในห้องเดียวกันก็ต้องถูกแยกตัวรักษา และการปิดบังไทม์ไลน์ทำให้การรักษาล่าช้า และติดไปในครอบครัว อีก 4 คน  ซึ่งคนไข้รายนี้ได้ทราบว่าตนเป็นผู้เสี่ยงสูงจากการไปงานศพ ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน และเข้ารับการรักษาในวันที่ 1 กรกฎาคม ถือว่ามีความผิดตาม พรบ.โรคติดต่อข้อ 3.2 อีกด้วย ซึ่งกำลังดำเนินการส่งเรื่องตามขั้นตอนทางกฎหมาย  และย้ำขอข้อมูลที่ชัดเจนกับทางโรงพยาบาลทุกครั้งที่เข้ารับการรักษา ขอให้คิดให้รอบคอบ ตอบตามความเป็นจริงเพื่อประโยชน์กับทุกส่วน

 ทางด้านแพทย์หญิงวิทยาภรณ์  จิ๋วนารายณ์. นายแพทย์ชำนาญการโรงพยาบาลคีรีมาศ  กล่าวถึงกรณีนี้ว่าได้มีการรักษาผู้ป่วยด้วยการเจาะเลือด พบว่ามีการติดเชื้อในกระแสเลือด และผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้พยาบาลเข้าถึงผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว  เช่นต้องมีการดูดเสมหะ ต้องให้ยาฆ่าเชื้อ ยากระตุ้นความดัน หลังจากรักษาตัว 4 วัน พบปอดติดเชื้อจึงส่งตรวจคัดกรองโควิด พบเป็นบวก  จากนั้นทีมสอบสวนโรคของอำเภอคีรีมาศได้ซักถาม พบว่าคนไข้ทราบก่อนเข้าโรงพยาบาลว่าตนเองเป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูง จากการไปงานศพ ที่ อ.บางระกำ จังหวัดพิษณุโลก แต่ไม่ได้แจ้งความจริง ทำให้ผู้ป่วยเองได้รับการรักษาช้า  โรงพยาบาลต้องรับผลกระทบกับเจ้าหน้าที่ ต้องจำกัดการรักษาลง  

 ทางด้านนายแพทย์ปองพล  วรปาณิ  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย ยังได้เปิดเผยว่า จากกรณีการปกปิดไทม์ไลน์นั้นในจังหวัดสุโขทัยได้มีการดำเนินคดีแล้ว 2 ราย  ซึ่งทางศบค.สุโขทัย ได้ส่งเรืองไปตามขั้นตอนแล้วและกำลังรอการพิจารณาโทษตามพรบ.โรคติดต่อ ต่อไป


พงศ์เทพ สาคร สุโขทัย






ขับเคลื่อนโดย Blogger.