Header Ads

 


 เกาะติดสถานการณ์ล่าสุด คดี "มหากาพย์ไม้พยุง " มีการขยับไม้ในด่านศุลกากรลาดกระบัง !



เมื่อเวลา 14:30 น.วันที่ 17 กรกฎาคม 2564 ณ บริเวณด่านศุลกากรลาดกระบังประตู 3 ถนน เจ้าคุณทหาร แขวง คลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร นางสาวิตรี นันท์ภิวัฒน์ ผู้รับมอบอำนาจจากทาง นายสอนแก้ว สิดทิไช (กรรมการผู้มีอำนาจบริหารและลงนามใน Phongsavanh Wood Industry) ได้มอบหมายให้ นางสาวธนัทศิริ อุดมกานต์กิจ (คณะทำงานนางสาวิตรี) เข้ามาตรวจสอบดูการปฏิบัติงาน และสอบถามถึงการที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้ได้มีการเคลื่อนย้ายไม้พยุงออกมาจากที่เก็บ

   โดยก่อนหน้านี้ นางสาวธนัทศิริ อุดมกานต์กิจ ได้รับข้อมูลมาว่าจะมีการเคลื่อนย้ายและขนไม้พยุง ออกจากด่านศุลกากรลาดกระบัง หลังจากนั้นทาง นางสาวธนัทศิริฯ ได้เกิดความกังวลใจจึงได้ประสานมายังผู้สื่อข่าวจากหลายสำนัก เพื่อให้เข้าไปร่วมสังเกตุการณ์  ครั้นเมื่อทีมผู้สื่อข่าว และนางสาวธนัทศิริฯ ได้เดินทางไปถึงก็ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานกำลังเคลื่อนย้ายกองไม้พยูง และไม่ทราบถึงวัตถุประสงค์ในการเคลื่อนย้าย ดังนั้นนางสาวธนัทศิริฯ จึงได้ประสานทางเจ้าหน้าที่ของทางด่านศุลกากร และขอเรียนเชิญทางผู้ใหญ่ที่ดูแลพื้นที่ และควบคุมการทำงาน เพื่อสอบถามถึงการเคลื่อนย้ายไม้พยุงในขณะนี้พร้อมกับได้แสดงเอกสารหลักฐาน ให้กับทางผู้ใหญ่ได้พิจารณาเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อป้องกันถ้าหากจะมีบุคคลที่กล่าวอ้างว่าได้รับสิทธิ์ และจะนำไม้ออกจากด่านศุลกากร จากนั้นนางสาวธนัทศิริฯ ได้ส่งยื่นและมอบเอกสารให้กับทางผู้ใหญ่ที่ออกมาไขข้อสงสัย แต่ผู้ใหญ่ที่ออกมาเจรจาไม่รับเอกสาร และแนะนำให้ส่งเอกสารไปทางศุลกากร และทางศุลกากรจะส่งต่อมายังผู้ใหญ่ท่านนี้อีกที

   การตอบข้อซักถามจากผู้สื่อข่าว โดยผู้สื่อข่าวสอบถามทางผู้ใหญ่ท่านนี้ และขอให้ไขข้อสงสัยถึงการเคลื่อนย้ายไม้ในขณะนี้ว่าเคลื่อนย้ายเพราะมีวัตุประสงค์อะไร จากนั้นได้รับคำชี้แจงจากผู้ใหญ่ท่านนี้ว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาเพื่อทำการตรวจนับไม้ว่าครบตามจำนวนหรือไม่ เนื่องด้วยไม้พยุงได้วางอยู่ที่นี่เป็นเวลานานถึง 15 ปี และในการตรวจนับก็ต้องมีเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาร่วมในการตรวจนับไม้เป็นปกติ หลังจากนั้นทางผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่า ในการนับไม้หากเสร็จสิ้นแล้วจะมีการขนย้ายออกจากสถานที่นี้เลยหรือไม่ ทางด้านผู้ใหญ่ได้ตอบมาว่า จะไม่มีการขนย้ายไม้ออกจากสถานที่นี้เป็นอันขาด จากนั้นทางนางสาวธนัทศิริฯ ได้เห็นว่ามี 1 บุคคลที่ได้อ้างสิทธิ์อยู่ภายในบริเวณที่กำลังนับเคลื่อนย้ายไม้ จึงได้สอบถามทางผู้ใหญ่ท่านนี้ ว่าทำไมบุคคลนั้นถึงเข้ายังบริเวณภายในพื้นที่ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจนับ โดยทางผู้ใหญ่ท่านนี้ได้กล่าวว่าจะเรียกเจ้าหน้าที่ภายในที่มีหน้าที่รับผิดชอบออกมาตอบข้อซักถามเอง หลังจากนั้นทางผู้ใหญ่ท่านนี้ก็ได้กล่าวบอกอีกว่าจะเข้าไปสั่งให้หยุดการตรวจนับในทันที จากนั้นผู้ใหญ่ท่านนี้ได้เข้าไปยังบริเวณกองไม้พยุงและเข้าพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ภายใน และต่อจากนั้นก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ออกมาตอบข้อสงสัย และได้หยุดการทำงาน ส่วนเจ้าหน้าที่ภายในได้แยกย้ายกันออกจากบริเวณที่มีการเคลื่อนย้ายไม้พยุงออกมากองไว้ในทันที ซึ่งสร้างความคลางแคลงใจให้กับนางสาวธนัทศิริฯ และผู้สื่อข่าวที่ไปร่วมสังเกตุการณ์ในวันนี้


ทางทีมงานข่าวชัดประเด็นจริง ช่อง13 สยามไทย ได้ติดต่ออธิบดีกรมศุลกากรทั้งนี้ทางอธิบดีกรมศุลกากรได้มอบหมายให้นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากรในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เป็นคนตอบคำถาม ทางโฆษกศุลกากรแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรมีหน้าที่เพียงเก็บรักษาไม้ไว้เท่านั้นส่วนการดำเนินการในการส่งมอบไม้ คืนเจ้าของนั้นสำนักงานเลขานายกรัฐมนตรีเป็นคนมอบหมายให้ ปทส.เป็นผู้ดำเนินการส่งมอบไม้ คืนเจ้าของที่แท้จริง  ดังนั้นหากเจ้าที่ ปทส.ตรวจสอบแล้วแจ้งว่าใครเป็นเจ้าของไม้ที่แท้จริง  ศุลกากรมีหน้าที่เพียงเป็นคนเก็บรักษาไม้เท่านั้น รอให้ ปทส. แจ้งว่าใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นทางกรมศุลกากรได้รับแจ้งจาก ปทส.ว่านายคำสะไหว คนเจ้าของที่แท้จริง ทางกรมศุลกากรทำหน้าที่ตรวจนับและคืนไม้ให้เท่านั้น  



สื่อมวลชนจึงได้โทรศัพท์สอบถามไปยังพลตำรวจตรีพิทักษ์ อุทัยธรรมผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์พยากรณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่าในกรณีที่นายคำสะไหว พมมะจันกับพวกเข้าไปตรวจสอบไม้อยู่ในบริเวณด่านศุลกากรลาดกระบัง  กับเจ้าหน้าที่ ปทส.เจ้าหน้าที่ป่าไม้และเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรนั้น  เหตุใดในคำสะไหว ถึงทำได้   ทางด้านพลตำรวจตรีพิทักษ์ได้แจ้งกับสื่อมวลชนว่าเนื่องจากเป็นคำสั่งศาลให้คืนไม้กับเจ้าของไม้  ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาปีที่แล้วทางด้าน ปทส.เห็นว่านายคำสะไหวเป็นเจ้าของที่แท้จริง จึงอนุญาต ให้ตรวจสอบและนำไม้ออกไปได้  ส่วนคนอื่นที่ร้องสิทธิ์ว่าเป็นเจ้าของไม้ที่แท้จริงต้องไปฟ้องร้องต่อศาลเอา  ส่วนหากมีการฟ้องร้องต่อศาลแล้วชนะคดีก็ต้องไปตามไล่บี้ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องปล่อยไม้ออกไปภายหลัง  


ส่วนทางด้านตัวแทนผู้รับมอบหน้าจากบริษัทพงษ์สะหวัน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลว่าวันจันทร์ที่ถึงจะนำเรื่องคดีดังกล่าวไปฟ้องร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลได้พิจารณาและดำเนิดคดีกับหน่วยงานและบุคลที่เกี่ยวข้องทั้งแพงและอาญาต่อไป







ขับเคลื่อนโดย Blogger.