Header Ads

 


 พิจิตรชาวนา94ครอบครัวร้องทุกข์ขอเอกสารสิทธิ์บนที่ดินทำกิน



 ชาวนาบ้านท่าบัว อ.โพทะเล 94 ครอบครัวรวมตัวกันร้องทุกข์ว่าที่ดินซึ่งเป็นที่นาทำมาหากินบนผืนดินแห่งนี้มาหลายชั่วอายุคนจนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ แถมถูกสำนักงานจัดรูปที่ดินพิจิตรจะออกเอกสารสิทธิ์เป็นที่ดินของรัฐจึงรวมตัวกันร้องทุกข์ผ่านผู้แทนราษฎรและนายอำเภอให้หาทางช่วย ล่าสุด ส.ส.พปชร.พิจิตรเขต 3 ขันอาสาส่งเรื่องไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ คณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอกระทรวงเกษตรพิจารณา

 วันที่ 15 มิ.ย. 2564 นายสุรชาติ  ศรีบุษกร ส.ส.พปชร.พิจิตร เขต 3 และ นายวัฒนา เจริญจิตร  นายอำเภอโพทะเล  ได้ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อไปพบกับกลุ่มเกษตรกรจำนวน 93 ครัวเรือนที่เป็นชาวนาทำมาหากินอยู่บนที่ดิน “ดงกุรัง”บนพื้นที่ 940 ไร่  ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณหมู่ 6 ต.ท่าบัว หลังที่ว่าการอำเภอโพทะเล ติดกับบึงสรรพงาย โดยมี นายสุวิทย์  พึ่งกัน อายุ 71 ปี  อยู่ 72 หมู่ 4 ต.ท่าบัว อ.โพทะเล  ซึ่งเป็นตัวแทนชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อน เล่าถึงเหตุที่ต้องมาร้องทุกข์กับ ส.ส.สุรชาติ และ นายวัฒนา นายอำเภอโพทะเล ว่า ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวเดือดร้อนเรื่องเอกสารสิทธิ์ของที่ดินทำกินบ้านป่าดงกุรัง ในอดีตมีพื้นที่ 2,400 ไร่ แต่ปัจจุบันมีผู้ออกเอกสารสิทธิ์ไปแล้วบางส่วนและยังมีเหลืออีก 940 ไร่ ซึ่งเป็นของเกษตรกรที่มีฐานะยากจนจึงไม่มีเงินขอออกเอกสารสิทธิ์มาถือครอง ชาวบ้านกลุ่มนี้ต่อสู้กันมายาวนานนับ10ปี  

 พอถึงวันนี้สำนักงานจัดรูปที่ดินพิจิตรอ้างมีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตจัดรูปที่ดินตั้งแต่เมื่อปี 2529 ที่มีข้อมูลบอกว่าเมื่อปี 2483  นายภูมิ  เกษมสังข์  ซึ่งเป็นนายอำเภอในสมัยนั้นเป็นผู้ออกประกาศให้ที่ดินผืนดังกล่าวเป็นที่สาธารณะ แต่เมื่อไปตรวจสอบทำนียบนายอำเภอโพทะเลปรากฏว่าไม่มีชื่อนี้เป็นนายอำเภอแต่อย่างใด รวมถึงเหตุที่อ้างว่าพื้นที่ดังกล่าว 2,400 ไร่ เป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ สอบถามคนเฒ่าคนแก่ก็ยืนยันว่าชาวบ้านแถบนี้มีอาชีพทำนาเลี้ยงวัวเลี้ยงควายก็แค่บ้านละ 1-2 ตัว เพื่อเอาไว้ไถนาเท่านั้น รวมถึงการประกาศเป็นพื้นที่สาธารณะ 2,400 ไร่ ก็หาจุดเริ่มต้นและลงท้ายไม่ได้ หนังสือที่ประกาศเป็นพื้นที่สาธารณะก็ยังไม่ประกาศเป็น นสล. ( หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ) รวมถึงไม่พบจุดดังกล่าวในแผนที่ ตัวแทนเกษตรกรยังได้ไปสืบค้นในราชกิจจานุเบกษาก็ไม่มีประกาศว่า “บึงกุรัง”เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเกษตรกรกลุ่มนี้ที่ถือครองที่ดินและครอบครองที่ดินทำกินมายาวนานเกือบ 100 ปี จึงอยากขอออกเอกสารสิทธิ์เพื่อเป็นทรัพย์สินและเป็นมรดกเพื่อใช้ในการทำมาหากินต่อไป

 จากนั้นตัวแทนเกษตรก็ได้ยื่นหนังสือให้กับ นายสุรชาติ  ศรีบุษกร ส.ส.พปชร.พิจิตร เขต 3 เพื่อขอให้ช่วยดำเนินการสะสางปัญหาดังกล่าว ซึ่ง ส.ส.สุรชาติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2564 ตนเองก็ได้แจ้งเรื่องปัญหาดังกล่าวนี้ไปยังคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับเรื่องแล้วและจะบรรจุเข้าวาระพิจารณาเพื่อขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาต่อไป


สิทธิพจน์  พิจิตร







ขับเคลื่อนโดย Blogger.