Header Ads

 


ฐานทัพเรือสัตหีบ จัดพิธีวางพวงมาลาเนื่องในวัน "อาภากร" บิดาทหารเรือไทยแบบ New Normal


เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 19 พ.ค.64 ที่บริเวณสวนกรมหลวงชุมพร กองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้จัดพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาทหารเรือไทย เนื่องใน"วันอาภากร" ประจำปี 2564 ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ในปีนี้ ฐานทัพเรือสัตหีบจึงได้มีการปรับลดจำนวนผู้ร่วมงานและการเพิ่มมาตรการเว้นระยะห่าง จากเดิมที่มีผู้ร่วมพิธีประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ตัวแทนสมาคมภริยาทหารเรือ องค์กรภาครัฐและเอกชน ตลอดจนสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ให้เหลือเพียงในส่วนของฐานทัพเรือสัตหีบ ทั้งนี้ยังคงไว้เฉพาะพิธีการสำคัญเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณ ตลอดจนถวายเป็นพระกุศลแด่ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไทย ที่ทรงมีพระกรุณาต่อกองทัพเรือเป็นอเนกอนันต์

ต่อมาเวลา 13.00 น. ได้จัดให้มีการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ โดยจัดให้มีการมอบข้าวสาร เครื่องอุปโภคบริโภค ให้แก่โรงเรียนเฉลียวภาวนานุสรณ์ มูลนิธิบ้านครูบุญชูเพื่อเด็กพิเศษ และศูนย์การศึกษาพิเศษ เขต 16
สำหรับพระประวัติโดยย่อของ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ประสูติเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2423 และสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2446 ทรงเป็นพระเจ้าลูกยาเธอใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาโหมด ในปี พ.ศ. 2436 ได้เสด็จไปศึกษาวิชาการทหารเรือ ณ ประเทศอังกฤษ ผลการศึกษาปรากฏอยู่ในขั้นดีเยี่ยม มีพระวิริยะอุตสาหะ พระจริยวัตรที่งดงาม เป็นที่รักใคร่ของครู อาจารย์ และเป็นที่ยอมรับของชาวอังกฤษเมื่อจบการศึกษาได้เสด็จกลับเข้ารับราชการในกระทรวงทหารเรือ รับพระราชทานยศเป็น นายเรือโทผู้บังคับการในตำแหน่งนายธงผู้บัญชาการทหารเรือ และเมื่อปี พ.ศ. 2448 ทรงดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือทรงได้ปรับปรุงการศึกษาของโรงเรียนนายเรือให้เจริญก้าวหน้าดังปรากฏ ทำให้ทหารเรือไทย มีความรู้ ความสามารถ ความชำนาญ สามารถเป็นครูและผู้บังคับบัญชาทหารเรือได้โดยไม่ต้องพึ่งพาชาวต่างประเทศ และเมื่อปี พ.ศ. 2450 ทรงเป็นผู้บังคับการเรือหลวงมกุฎราชกุมาร นำนักเรียนนายเรือและนักเรียนช่างกลไปฝึกภาคต่างประเทศ ได้ทรงนำเรือและที่ประเทศสิงคโปร์เปลี่ยนสีเรือจากสีขาวเป็นสีหมอกให้เหมือนเรือรบต่างประเทศ เพื่อให้กลมกลืนกับลักษณะของสีน้ำทะเล และภูมิประเทศอีกด้วย นอกจากนี้พระองค์ท่านยังได้ทรงศึกษาตำราหมอยาไทยอย่างจริงจัง จนมีความรู้แตกฉานทรงเป็นหมอยาไทย รับรักษาประชาชนทั่วไป ด้วยน้ำพระทัยโอบอ้อมอารีจนได้รับพระสมัญญาว่า “หมอพร” แห่งราชนาวีไทย
ภาพ/ข่าว สมนึก เชื้อสนุก ผู้สื่อข่าวทีวีช่อง 13สยามไทย












 
ขับเคลื่อนโดย Blogger.