Header Ads

 


รวบลูกจ้างนายลักลอบตัดไม้ พร้อมยาบ้าเกือบ 100 เม็ด


วันที่  25 มกราคม 2564 เวลา 10.00 น.ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.13 (น้ำสา) ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ โดยการอำนวยการสั่งการของนายประสิทธิ์ ท่าช้าง ผอ.สจป.ที่ 3 สาขาแพร่ นายชาตรี สัทธรรมนุวงค์ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า , นายลอย ใจจูน ผอ.ศูนย์ป่าไม้น่าน โดยเจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึด/จับชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป. ที่ 3 สาขาแพร่ นำโดยนายพิษณุพันธ์ วงค์ขันธ์ พร้อมกับพวกชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้น่าน และนายณัชนนท์ คนสูง หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.13(น้ำสา) พร้อมกับพวกเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เวียงสา,  ร.ต.ท.ผ่อง อาวาทย์ กับพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ที่ 324 ,ร.ต.อ.สมบัติ แก้วกล้า เจ้าหน้ำที่ตำรวจ ชุด กก.4 บก.ปทส จ.น่าน พร้อมพวกได้ร่วมกันจับกุม

นายเอกชัย ต้นยง อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 46/2 หมู่ 3 ต.เวียงทอง อ.สูงเม่น จ.แพร่  พร้อมด้วยของกลาง 1.ไม้สักท่อน จำนวน 3 ท่อน ปริมาตร 0.18 ลูกบาศก์เมตร 2.ไม้ชิงชันท่อน จำนวน 2 ท่อน ปริมาตร 0.09 ลูกบาศก์เมตร

3.ไม้สักแปรรูป จำนวน 2 แผ่น/หลี่ยม ปริมาตร 0.06 ลูกบาศก์เมตร 4.ไม้กระยาเลขแปรรูป(ประคู่) จำนวน 1 แผ่น/หลี่ยม ปริมาตร 0.01 ลูกบาศก์เมตร 5.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มิตซูบิซิ สีบรอนเงิน ทะเบียน บม. 1323 แพร่ จำนวน 1 คัน 6.เลื่อยไซ่ยนด์ พร้อมเครื่องบาร์โซ่ขาว 20 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง

7.. โซ่พร้อมยาร์ ยาว 12 นิ้ว จำนวน 1 เส้น 8.เลื่อยมือ ยาว 25 นิ้ว จำนวน 1 ปื้น 9.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า ชนิดเม็ด สีส้ม อยู่ในถุงพลาสติกใสในกระเป้าเสื้อของผู้ต้องหา จำนวน 60 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพ จำนวน 1 ชุค 

การจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า มีนายทุนจากจังหวัดแพร่  ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่เข้ามาทำการลักลอบตัดไม้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำสา  และป่าแม่สาครฝั่งซ้าย ในเขตป่าบ้านภักดีธรรม หมู่ 7 ตำบลยาบหัวนา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังเข้าดำเนินการออกตรวจลาดตระเวนในพื้นที่บริเวณเกิดเหตุ  เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงเลื่อยโซ่ยนต์ดังขึ้น จึงได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบมาตามเสียงเลื่อยโซ่ยนต์ปรากฏว่าพบชาย 2 คน กำลังใช้เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ทำการตัดทอนไม้ท่อนอยู่ในบริเวณป่าดังกล่าว  จึงเข้าทำการจับกุม  ทันทีที่ชายทั้ง 2 คนเห็นเป็นเจ้าหน้าที่จึงได้พากันวิ่งหลบหนี  เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ 1 คน ส่วนชายอีก 1 คนอาศัยความชำนาญพื้นที่ได้วิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็วไม่สามารถจับกุมตัวไว้ได้

จากการสอบถามนายเอกชัย ให้การว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาตนเองพร้อมด้วยนายรุจ  ไม่ทราบนามสกุล อยู่บ้านบ่อหอย คนที่หลบหนีไปได้ ได้นำรถยนต์พร้อมเครื่องยนต์เข้ามาทำการแปรรูปไม้ในป่าห้วยแม่กุ้ม มาตั้งแต่เมื่อคืนและไม้บางส่วนได้นำไปบรรทุกใส่ไว้รถยนต์กระบะ  ซึ่งจอดไว้ห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร จึงได้ควบคุมตัวนายเอกชัย ไปยังจุดที่จอดรถยนต์กระบะในป่าบริเวณใกล้กันพบท้ายรถกระบะบรรทุกไม้ท่อน  และอุปกรณ์การแปรรูปไม้จำนวนหนึ่ง  

นอกจากนี้ยังตรวจค้นพบยาบ้าของกลางและอุปกรณ์เสพอยู่ในกระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของนายเอกชัย จากการขยายผลโดยนายเอกชัย ให้การเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนหน้านั้นประมาณ 1 เดือนได้มีนายพิเชฐ หรือติ เป็นบ้านกาซ้อง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ได้พาตนมารู้จักกับนายรุจ ซึ่งเป็นราษฎรในพื้นที่บ้านบ่อหอย ให้มารับจ้างทำไม้ในพื้นที่บ้านบ่อหอย ต่อมาเมื่อวันที่ 22 มกราคม นายรุจ ได้โทรศัพท์มาหาตนให้ขึ้นมาช่วยทำไม้ในป่า ที่เกิดเหตุ จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบและถูกจับกุมดังกล่าว 

จึงได้ควบคุมตัวนายเอกชัย พร้อมของกลางทั้งหมด นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เวียงสา โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำผิดว่า ด้วยการป่าไม้และพระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ พ. ศ. 2545 และ.ข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย  ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีทางพนักงานสอบสวนจะได้ออกหมายเรียกเพื่อดำเนินคดีต่อไป





สมชาย จินนาเกตุ ประธานสมาพันธ์สื่อสารมวลชนจังหวัดน่าน/ปฏิญญา เรือนงาม รายงาน


ขับเคลื่อนโดย Blogger.