นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ประธานในพิธีถวายราชสักการะ เนื่องในวันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ณ ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ โดยมี นาย ปรีชาเดชพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ข้าราชการพลเรือน ตุลาการ ทหาร ตำรวจ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครสวรรค์ และสมาชิกเหล่ากาชาด ร่วมพิธี ถวายราชสักการะ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระมหากษัตริย์ผู้ครองกรุงศรีอยุธยา มีพระราชสมภพ เมื่อวันจันทร์ เดือนยี่ ปีวอก พุทธศักราช 2175 พระองค์มีความเชี่ยวชาญในทุกด้าน ทั้งด้านศิลปะวิชาไตรเพท ยุทธศาสตร์ และการปกครอง ครั้นเมื่อพระชนมายุได้ 25 พรรษา ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ขึ้นเสวยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 27 แห่งกรุงศรีอยุธยา พระองค์ทรงเสวยราชสมบัติได้ประมาณ 10 ปี จึงทรงมีพระราชดำริให้สถาปนาเมืองเก่าคือเมือง ลวธานี หรือ เมืองลพบุรีในปัจจุบัน เป็นราชธานีที่ 2 ประวัติศาสตร์ได้จารึกพระราชกรณียกิจของพระองค์ในด้านต่าง ๆ ไว้นานับประการ ทั้งด้านที่ทรงเป็นกษัตริย์นักรบผู้กล้าหาญ ทรงปกครองอาณาประชาราษฎรด้วยทศพิธราชธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวกับการเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์เพียงพระองค์เดียวในบูรพาประเทศ ที่เป็นมิตรและสนิทสนมกับชาวยุโรปในเวลานั้น ที่ต่างมุ่งหวังครอบครองอาณาจักรสยาม และด้วยพระปรีชาญาณ ได้ทรงตัดสินพระทัยเลือกเจริญสัมพันธไมตรีอย่างแน่นแฟ้นกับประเทศฝรั่งเศสเพื่อถ่วงดุลอำนาจกับประเทศฮอลันดา ทรงจัดให้มีการแลกเปลี่ยนทูต นับได้ว่าทรงบรรลุจุดสุดยอดของการทูตไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา ผลแห่งการกระชับสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศในยุโรป เป็นผลให้เกิดการถ่ายเทอารยธรรม ยังความเจริญในด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ การค้าและสถาปัตยกรรม แก่สยามประเทศ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จดำรงราชสมบัตินานถึง 32 ปี จึงเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พุทธศักราช 2231 สิริรวมพระชนมายุได้ 56 พรรษา
พิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันสมเด็จพระนารายมหาราช จึงเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันล้ำเลิศ ที่ทรงวางรากฐานอันเป็นปึกแผ่นมั่นคงในด้านต่าง ๆ ของประเทศ นับจากสมัยกรุงศรีอยุธยา จนถึงปัจจุบัน
ภาพ/ข่าว อัมพณ จับศรทิพย์
