Header Ads

 


ศูนย์คุ้มครองไร้ที่พึ่งอุทัยธานี จับมือบ้านพักเด็กและครอบครัวรุดช่วยเหลือครอบครัวยากจนลำบากจริง พ่อเลี้ยงลูกป่วยเดินไม่ได้ 7 ปี วอนขอเพริมเพริส

วันที่ 24 มิถุนายน 2563 เวลา 08.00 น.​นายณรงค์ฤทธิ์ นุปิง ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งอุทัยธานี กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขานรับนโยบาย นายสุทธิ จันทะวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ  มีนโยบายช่วยเหลือคนจนมากลำบากจริง​ ในพื้นที่เป้าหมาย​ จึงรุดช่วยเหลือเยี่ยมครอบครัว นายบุญปัน อ่อนจันทร์ อายุ 45 ปี บ้านเลขที่​ 78 บ้านทันสมัย ตำบลน้ำรอบ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ได้เล่าเรื่องราวอันสุดสะเทือนใจให้ฟังว่า เมื่อเด็กหญิงแป้ง ตอนอายุ 3 ปี ประสบอุบัติเหตุ​ มีรถยนต์คนที่สนิทกันเป็นอย่างดี เข้ามาทำไร่มันอยู่ในหมู่บ้าน​ ระหว่างเกิดเหตุ​ น้องแป้งได้เล่นอยู่กับเพื่อนๆ​ แล้วรถคันดังกล่าว​ ก็ถอยหลังและทับเข้าที่ขาทั้งสองข้างของน้องแป้ง​ อย่างไม่ตั้งใจ ส่งผลให้น้องแป้งนั้นขาลีบไม่มีเรี่ยวแรงหรือจะเรียกว่าพิการก็ว่าได้ โดยคู่กรณีที่ขับรถทับขาน้องแป้งนั้นก็แสดงความรับผิดชอบ นำตัวน้องแป้งไปส่งที่โรงพยาบาล​ และได้ผ่อนจ่ายเงินช่วยเหลือ​ เพื่อแสดงความรับผิดชอบเป็นรายปี​ ปีละ 40,000 บาท และในตอนนี้น้องแป้งอายุ 10 ปีแล้วและบ่นว่าอยากไปโรงเรียนกับเพื่อนๆ​ ทั้งที่ขานั้นเดินไม่ได้ เวลาน้องแป้งจะไปไหนในบ้าน​  ต้องใช้แขนดันตัว​ แล้วถัดไปซึ่งเป็นภาพที่สุดสลดใจ บางครั้งนายบุญปันก็จะต้องอุ้มน้องแป้งไปหรือไม่ก็ใส่รถวิีลแชร์ ซึ่งรถวีลแชร์นั้นมีสภาพเก่ามากเพราะใช้งานมานานหลายปีแล้ว
นายบุญปัน ได้บอกว่าในขณะนี้ นางพรรณนิภา มะธิปวัตตา ผู้เป็นแม่นั้นจำต้องอยู่บ้านดูแลลูก​ จึงออกไปทำงานหารายได้มาจุนเจือครอบครัวอีกทางหนึ่งไม่ได้ นายบุญปันหัวหน้าครอบครัวจำต้องทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว​ โดยประกอบอาชีพเป็นพนักงานส่งจดหมายอยู่ที่ ไปรษณีย์ สาขาอำเภอลานสัก ได้เงินเดือน 12,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายหรือดูแลน้องแป้งที่จำเป็นต้องใช้แพมเพิส ถึงวันละ 4 ตัว เพราะน้องแป้งเวลาขับถ่ายนั้นไม่เป็นเวลา เพราะหลังจากที่โดนรถทับขาก็เป็นมาเรื่อย​ เรื่องระบบขับถ่าย บางครั้งเวลาปวดปัสสาวะก็ไม่รู้ตัวเองว่าปวดก็จะไหลนองพื้นบ้าน หากไม่มีกางเกงอนามัยหรือแพมเพิร์ส จนบางครั้งไม่มีเงินที่จะซื้อแพมเพิร์ส​ ก็จำต้องใช้กระดาษทิชชู่​พันไว้ นายบุญปันมีลูก 2 คน คนโตนั้นเป็นเด็กชายกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.3 ส่วนน้องแป้งนั้นตั้งแต่โดนรถทับขาจำต้องหยุดเรียนไปในตอนนี้น้องแป้งบ่นว่าอยากไปเรียนหนังสือมากๆ นายบุญปันเผยว่าน้องแป้งพูดว่าอยากไปโรงเรียนบางครั้งต้องแอบไปร้องไห้กับเมียเพราะสงสารลูกจับใจ ไม่อยากให้ลูกสาวนั้นเห็นน้ำตาผู้เป็นพ่อ ตั้งแต่น้องแป้งโดนรถทับที่ขาเวลาผ่านไป 7 ปี นายบุญปันและนางพรรณนิภา นั้นได้ดูแลน้องแป้งเอาใจใส่ด้วยความรักเป็นอย่างดีมาตลอด น้องแป้งเป็นเด็กที่พูดจาฉะฉานและพูดเพราะน่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอความช่วยเหลือในเบื้องต้นจาก นายณรงค์ฤทธิ์ นุปิง ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุทัยธานี จึงได้นำแพมเพิร์ส กระดาษทิชชู่ และสิ่งของจำเป็นที่ดูแลผู้ป่วยและตุ้๊กตาที่น้องแป้งบ่นว่าอยากได้​  มามอบให้กับครอบครัวน้องแป้งและได้ช่วยเหลือผู้ปกครองเป็นเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ครอบครัวผู้มีรายได้น้อย จำนวน 3,000 บาท ให้ไว้ใช้จ่ายในครอบครัว และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานี ได้มอบนม จำนวน 1 กล่อง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ช่วยเหลือปรับปรุงซ่อมแซมบ้านเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาพร้อมมอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือ 2,000 บาทพร้อมรถโยก นอกจากนั้นศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจะได้ประสานแรงงาน/จัดหางานจังหวัดวางแผนหาอาชีพครอบครัวเพื่อมีรายได้พร้อมวางแผนบูรณาการหน่วยงาน ONE HOME เพื่อช่วยเหลือตามระเบียบทางราชการต่อไป.






ปิยวดี​ มณีอินทร์​//ข่าวต้อย​ รอบรั้วภูธร//รายงาน
ขับเคลื่อนโดย Blogger.