Header Ads

 


กองทัพภาคที่ 3 เตือนเฝ้าระวังโรคไข้ปวดข้อยุงลาย

วันที่ 12 มิถุนายน 2563 กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แถลงข่าวประชาสัมพันธ์ ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 88 ณ สระว่ายน้ำ ค่ายจิรประวัติ มณฑลทหารบกที่ 31 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ โดยมี พันเอก รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 พร้อมด้วย พันเอก นายแพทย์ วิโรจน์ ชนม์สูงเนิน และ พันโท ทรงสิทธิ์ รอดสการ รองโฆษกฯ เป็นผู้แถลงข่าวฯ มีสาระสำคัญดังนี้.-
จากข้อมูลในการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าสถานการณ์โรคไข้ปวดข้อยุงลายในประเทศไทย ในปี 2563 พบผู้ป่วยแล้ว 1,630 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งกลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยมากที่สุดคือ 25 – 34 ปี รองลงมาคือกลุ่มอายุ 35-44 ปี และอายุ 45-54 ปี ตามลำดับ ซึ่งในห้วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานพบผู้ป่วยรายใหม่ ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก รวมอยู่ด้วย
 สำหรับการติดต่อและการแพร่ระบาดของโรคไข้ปวดข้อยุงลายนั้น คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูฝน ทำให้ในหลายพื้นที่มีฝนตกชุก เกิดน้ำขังตามภาชนะและวัสดุต่างๆ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายได้
แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้โรงพยาบาลทหารทั้ง 10 แห่ง ในพื้นที่ภาคเหนือ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อเฝ้าระวังโรค ทั้งนี้ แนะนำให้มีการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายบริเวณบ้านและชุมชน ตามมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” ดังนี้.-
1. เก็บบ้านให้สะอาด เช่น พับเก็บเสื้อผ้าใส่ในตู้หรือแขวนให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง
2. เก็บขยะที่อยู่บริเวณรอบบ้าน เก็บภาชนะใส่อาหารหรือน้ำดื่มที่ทิ้งไว้ใส่ถุงดำ และนำไปทิ้งลงถังขยะ
3. เก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำเพื่ออุปโภค บริโภค ต้องปิดฝาให้มิดชิด ล้างคว่ำภาชนะใส่น้ำ และเปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันทุกสัปดาห์ ป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ ซึ่งจะสามารถป้องกัน 3 โรค คือ 1) โรคไข้ปวดข้อยุงลาย 2) โรคติดเชื้อไวรัสซกา และ 3) โรคไข้เลือดออก
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ มีอาการบ่งชี้ของโรค คือ มีอาการไข้, ปวดข้อ, มีผื่น หรือสงสัยว่าป่วยด้วยโรคไข้ปวดข้อยุงลาย ขอให้ได้ไปพบแพทย์ ณ โรงพยาบาลทหาร หรือโรงพยาบาลในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้านโดยเร็ว หรือสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422





ภาพ/ข่าว อัมพณ จับศรทิพย์
ขับเคลื่อนโดย Blogger.