ตีนผีไฮโซ ดับ 1 เจ็บ 1
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 23 พ.ค.63 ร.ต.อ.ชนินทร์ อิ่มเจริญชัย รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนรถจยย.พ่วงข้าง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย บริเวณริมถนนเพชรเกษม หน้าศูนย์วิจัยข้าวราชบุรี หมู่ที่ 1 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งเหตุจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวร รพ.ราชบุรี และจนท.มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ราชบุรี ที่เกิดเหตุพบรถจยย.พ่วงข้าง ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีเทาดำ ทะเบียน ขทย - 270 ราชบุรี สภาพถูกชนอย่างแรงจนล้มมุดตะแคงเข้าไปในราวเหล็กกันถนน และชิ้นส่วนรถหลุดแตกกระจัดกระจายเต็มท้องถนน ใกล้กันกับรถ จยย.พ่วงข้าง ยังพบชิ้นส่วนขาข้างขวาตั้งแต่สะโพกขาดตกอยู่กันใกล้ ส่วนร่างผู้เสียชีวิตกระเด็นตกอยู่ในร่องเกาะกลางถนน ทราบชื่อต่อมาคือ นางจรวยพร แสนเสน่ห์ อายุ 62 ปี เป็นชาว จ.นนทบุรี พักอาศัยอยู่ห้องเช่าอาคารพาณิชย์ ซอยโรงสีไทยรุ่ง หมู่ที่ 1 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกหนึ่งราย ทราบชื่อต่อมาคือ นางดวงพร อาบโกเศส อายุ 53 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่ง รพ.บาลราชบุรี ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ทะเบียน กอ - 4693 สงขลา จอดอยู่ริมถนน ด้านหน้ารถฝั่งขวาของตัวรถมีร่องรอยจากการชนจนกันชนยุบเสียหาย ส่วนบังโคลนหน้าฉีกเปิดทั้งแถบและยางล้อหน้าด้านขวาแตก ใกล้กันกับรถพบ นายกฤษดา แสนอินทร์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 412 ถ.ราษฎร์อุทิศ 1 ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าวยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่
จากการสอบถาม นางจรัญญา อาบโกเศส ญาติผู้เสียชีวิต ทราบว่า ครอบครัวมีพี่น้องรวม 9 คน ตนเองเป็นคนที่ 3 ส่วนคนตายเป็นพี่คนที่ 2 และผู้บาดเจ็บเป็นน้องสาวคนที่ 5 โดยทั้ง 2 คน มีอาชีพเปิดร้านขายกาแฟอยู่บริเวณริมถนน ด้านหน้าเขาแก่นจันทร์ ทุกวันจะขี่รถจยย.พ่วงข้างออกไปทำงาน พอช่วงเย็นถึงจะกลับห้องพัก วันนี้ช่วงเย็นทั้ง 2 คนได้ปิดร้านและเดินทางกลับมาพักผ่อนที่ห้อง แต่ช่วงหัวค่ำทั้ง 2 คนได้ขี่รถจยย.พ่วงข้างออกไปไหนไม่รู้ เข้าใจว่าอาจจะไปหาซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ขายอยู่ริมถนนของอีกฝั่งกินก็เป็นได้ กระทั่งมีเพื่อนบ้านมาบอกว่ามีรถจยย.พ่วงข้างถูกรถชน ตนจึงรีบออกมาดูพอเห็นก็จำได้ว่าเป็นนางจรวยพร และนางดวงพร พี่น้องของตน
ด้านนายกฤษดา แสนอินทร์ อายุ 40 ปี คนขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ กล่าวว่า ตนเองได้ขับรถมาอยู่เลนขวามุ่งหน้าจะกลับบ้านที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ส่วนรถจยย.พ่วงข้าง ได้ขับตัดหน้ารถของตน ขณะที่บริเวณนั้นมืดมากมองไม่เห็น เพราะไฟฟ้าส่องสว่างดับ จึงทำให้ชนเข้ากับรถจยย.พ่วงข้างของผู้ตายเข้าอย่างจัง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในระแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นแนวทางในการสอบสวน และได้เชิญตัวผู้ขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์คันเกิดเหตุไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองราชบุรี เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามชาวบ้านในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ให้ข้อมูลว่า ไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณแยกลอดอุโมงกลับรถจะมีไฟดับเป็นระยะทางยาวจนมาถึงจุดเกิดเหตุ มาเป็นเวลา 4 วันแล้ว ซึ่งบริเวณดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้ง ชาวบ้านจึงฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขไฟส่องสว่างให้ใช้งานได้โดยเร็ว เพื่อจะได้ไม่เกิดอุบัติซ้ำซ้อนเกิดขึ้นอรก และเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงเวลากลางคืนอีกด้วย
ภาพ/ข่าว สุจินต์ นฤภัย
