เสือทิ้งซากเหยื่อ ฆ่า!แล้วหนี ทิ้งซากกวางป่า ไว้ให้หมาไน แอบมากินตอนกลางคืนแทน กลางป่า อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
ตามที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ได้รายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2563 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ พบซากกวางป่า ถูกเสือกัดตาย จำนวน 1 ตัว ทิ้งซากไว้บริเวณปลักน้ำ กลางป่าลึกในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จากนั้นเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ร่วมกับ WWF นำกล้องดักถ่าย camera taps จำนวน 3 กล้อง ไปติดตั้งไว้รอบซากกวางป่า เพื่อพิสูจน์ทราบ
ปรากฏว่า วันที่ 18 เมษายน 2563นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผอ. สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12(นครสวรรค์) พร้อมด้วยนายกิติพัฒน์ ธาราภิบาล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ได้เดินทางเข้าไปยังจุดเกิดเหตุอีกครั้งพบว่า ซากกวางป่า เริ่มอืด ส่งกลิ่น และมีแมลงวันตอม มากขึ้น ซากกวางป่าถูกลากเลื่อนออกจากจุดเดิมประมาณ 1 เมตร ชิ้นเนื้อซากของกวางป่าบริเวณข้อมือขวา และ ก้น โดนแทะ และบางส่วนชิ้นเนื้อหายไป
จากนั้นได้เปิดภาพจากกล้องที่ตั้งแอบถ่ายไว้ พบว่า เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2563 เวลา 19.28 น.และเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 เวลา 03.02 น. มีหมาไน จำนวน 1 ตัว มากินซากกวางป่าดังกล่าว
โดยภาพที่ถ่ายได้ไม่พบสัตว์ใหญ่ชนิดอื่น พบเพียงรอยเท้าของหมี และสัตว์ปีกเข้ามารอบๆ ซาก
จากการที่พบว่า เสือ ไม่กลับมากินซากกวางป่าที่ตนเองล่าไว้ โดยพบร่องรอยเพียงรอยตีนเสือมาเดินวนเวียนอยู่ห่างๆ ในวันแรกหลังจากล่าแล้วเพียงวันเดียว จากนั้นไม่พบว่าเสือกลับมาหาเหยื่ออีกเลย ทำให้เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า เสือผู้ล่าได้ยอมทิ้งซากแล้ว ทั้งที่โดยทั่วไปแล้ว เสือจะไม่ยอมทิ้งซากง่ายๆ และจะหวงซากมาก จะทำร้ายสัตว์อื่น รวมทั้งมนุษย์หากเข้าไปใกล้ซากที่มันล่าไว้
การที่เสือทิ้งซากในครั้งนี้ อาจเป็นเพราะเสือตัวนี้ เป็นเสือที่มีประสบการณ์เอาตัวรอดสูง โดยเมื่อเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามา หรือ ได้ยินเสียงรถ รู้ว่ามีคนเข้ามาในพื้นที่ คิดว่าไม่ปลอดภัย หรือ อีกอาจเป็นเพราะยังอิ่มอยู่ เนื่องจาก ณ จุดห่างออกไปจากจุดนี้ประมาณ 500 เมตร มีกระดูกของหมู่ป่า ยังสดๆ กองอยู่
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ร่วมกับ WWF ยังคงตั้งกล้องดักถ่าย camera taps ไว้รอบซากกวางป่าตัวนี้ ต่อเนื่องต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงวิชาการที่สมบูรณ์มากขึ้น อันจะนำไปใช้ในการวางแผนจัดการสัตว์ป่าต่อไป
ภาพข่าว ภคพล ครองสิน นครสวรรค์ รายงาน
ปรากฏว่า วันที่ 18 เมษายน 2563นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผอ. สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12(นครสวรรค์) พร้อมด้วยนายกิติพัฒน์ ธาราภิบาล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ได้เดินทางเข้าไปยังจุดเกิดเหตุอีกครั้งพบว่า ซากกวางป่า เริ่มอืด ส่งกลิ่น และมีแมลงวันตอม มากขึ้น ซากกวางป่าถูกลากเลื่อนออกจากจุดเดิมประมาณ 1 เมตร ชิ้นเนื้อซากของกวางป่าบริเวณข้อมือขวา และ ก้น โดนแทะ และบางส่วนชิ้นเนื้อหายไป
จากนั้นได้เปิดภาพจากกล้องที่ตั้งแอบถ่ายไว้ พบว่า เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2563 เวลา 19.28 น.และเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 เวลา 03.02 น. มีหมาไน จำนวน 1 ตัว มากินซากกวางป่าดังกล่าว
โดยภาพที่ถ่ายได้ไม่พบสัตว์ใหญ่ชนิดอื่น พบเพียงรอยเท้าของหมี และสัตว์ปีกเข้ามารอบๆ ซาก
จากการที่พบว่า เสือ ไม่กลับมากินซากกวางป่าที่ตนเองล่าไว้ โดยพบร่องรอยเพียงรอยตีนเสือมาเดินวนเวียนอยู่ห่างๆ ในวันแรกหลังจากล่าแล้วเพียงวันเดียว จากนั้นไม่พบว่าเสือกลับมาหาเหยื่ออีกเลย ทำให้เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า เสือผู้ล่าได้ยอมทิ้งซากแล้ว ทั้งที่โดยทั่วไปแล้ว เสือจะไม่ยอมทิ้งซากง่ายๆ และจะหวงซากมาก จะทำร้ายสัตว์อื่น รวมทั้งมนุษย์หากเข้าไปใกล้ซากที่มันล่าไว้
การที่เสือทิ้งซากในครั้งนี้ อาจเป็นเพราะเสือตัวนี้ เป็นเสือที่มีประสบการณ์เอาตัวรอดสูง โดยเมื่อเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามา หรือ ได้ยินเสียงรถ รู้ว่ามีคนเข้ามาในพื้นที่ คิดว่าไม่ปลอดภัย หรือ อีกอาจเป็นเพราะยังอิ่มอยู่ เนื่องจาก ณ จุดห่างออกไปจากจุดนี้ประมาณ 500 เมตร มีกระดูกของหมู่ป่า ยังสดๆ กองอยู่
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ร่วมกับ WWF ยังคงตั้งกล้องดักถ่าย camera taps ไว้รอบซากกวางป่าตัวนี้ ต่อเนื่องต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงวิชาการที่สมบูรณ์มากขึ้น อันจะนำไปใช้ในการวางแผนจัดการสัตว์ป่าต่อไป
ภาพข่าว ภคพล ครองสิน นครสวรรค์ รายงาน