ชลบุรี - ท่าเรือแหลมฉบัง วางมาตรการเข้ม ไวรัสโควิด-19 แบ่งครึ่งคนทำงาน 50:50
ทลฉ. วางมาตรการเข้ม โรคไวรัสโควิด-19 โดยไม่กระทบเรือสินค้าเข้าเทียบท่าได้ตามปกติ เว้นคนบนเรือห้ามลง ส่วนพนักงานท่าเรือในแต่ละแผนกแบ่งมาทำงาน 50:50
เรือโท ยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวถึง สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 โดยตนในฐานนะประธานคณะกรรมการช่องทางด่านท่าเรือแหลมฉบังนั้น ซึ่งท่าเรือแหลมฉบัง เป็นช่องทางหนึ่งที่ต้องคัดกรองคนที่เดินทางเข้ามาในประเทศ โดยร่วมงานระหว่าง ด่านควบคุมโรค ,ด่านศุลกากร ,ด่านตรวจคนเข้าเมือง ,โรงพยาบาลในเขตศรีราชา ซึ่งจะร่วมมือกันหามาตรการในการป้องกันและควบคุมโรคไวรัสโควิด-19 และขณะนี้ถือว่าใกล้ตัวมาก โดยล่าสุดทางรัฐบาลได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอันตรายของโรคดังกล่าว
ที่ผ่านมาทางท่าเรือแหลมฉบัง มีมาตรการในการดูแลเรือสินค้ามาโดยตลอด และล่าสุดมีเรือโดยสาร เวสเตอร์ดัม จะขอเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบัง แต่ท่าเรือแหลมฉบังไม่ได้อนุญาต จึงต้องไปเทียบท่ายังประเทศเพื่อนบ้านแทน และหลังจากนั้นเรือโดยสารทุกลำจะเข้ามาเทียบท่าในประเทศไทยหรือท่าเรือแหลมฉบัง จะต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดจาก ด่านควบคุมโรคท่าเรือแหลมฉบังและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยทุกวันนี้ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อมากับเรือโดยสารที่มาขึ้นในประเทศไทย ทำให้คลายกังวลกับปัญหาดังกล่าว และขณะนี้คาดว่าไม่น่ามีเรือโดยสารมาเทียบท่าในช่วงซีซั่นนี้
เรือโทยุทธนา กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรือสินค้าที่ท่าเรือแหลมฉบังเคยประกาศห้ามให้เรือที่มาจากประเทศเสี่ยงเข้าเทียบท่านั้น ขณะนี้พื้นที่เสี่ยงยังเป็นไปตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข โดยยังดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว ส่วนเรือสินค้าที่จะเข้ามานั้น ยังรับตามปกติ แต่คนที่มากับเรือลำดังกล่าวไม่สามารถลงจากเรือนั้นได้ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ทุกๆฝ่ายที่จะต้องขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่บนเรือ ต้องป้องกันและดูแลตนเองเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ติดเชื้อโควิด-19
สำหรับมาตรการป้องกันเจ้าหน้าที่และพนักงานท่าเรือแหลมฉบัง ไม่ให้รับเชื้อโควิด-19 นั้น โดยทางท่าเรือแหลมฉบังมีมาตรการ คือ ให้มาทำงานแบ่งครึ่ง เช่น ในแต่ละแผนกมีพนักงาน 10 คน อาจให้มาทำงาน 5 คน หรือ 70:30 ,60:40 ก็ได้ แต่สามารถมาทำงานในแผนกโดยไม่ติดขัด เพื่อให้การทำงานสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง โดยพนักงานที่ไม่ได้มาทำงานและอยู่ทำงานที่บ้านจะต้องทำงานอย่างจริงจังเท่านั้น เพราะหวั่นไปนอกบ้านอาจติดเชื้อโควิด-19 ได้
เรือโทยุทธนา กล่าวว่า สำหรับมาตรการให้ทำงานที่บ้านนั้น คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในวันที่ 30 มีนาคม นี้ โดยหัวหน้าแผนกจะเป็นผู้มอบหมายงานให้ไปทำและเมื่อครบสัปดาห์จะต้องนำผลงานมาเสนอต่อหัวหน้าต่อไป เพื่อให้เกิดความเหมาะสม
หากพนักงานท่าเรือแหลมฉบังเกิดการติดเชื้อโควิด-19 ในแผนกใดแผนกหนึ่ง พนักงานนั้นจะต้องพักตัวเป็นเวลา 14 วัน เพื่อตรวจสอบอาการ ดังนั้นขอให้พนักงานทุกๆคนระมัดระวังจุดเสี่ยง โดยไม่ควรเดินทางไปในพื้นที่ใดๆและควรอยู่แต่ในบ้าน เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยง และต้องให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง
สำหรับคนนอกที่ไม่มีบัตรผ่าน เข้ามาในท่าเรือแหลมฉบัง ในสภาวะช่วงนี้งดหรือชะลอไป ส่วนผู้ที่มาติดต่อราชการ จะห้ามให้เข้าไปในสำนักงานหรือห้องทำงานอย่างเด็ดขาดโดยอาจจะติดต่อโดยผ่านเอกสารหรือยื่นเอกสารเท่านั้น โดยไม่ให้สัมผัสกันโดยตรง ส่วนพนักงานเอ้าส์ซอส ที่เก็บเงินจากผู้ประกอบการรถบรรทุก ซึ่งต้องใช้พนักงานในการจัดเก็บอยู่ ดังนั้นจะต้องให้พนักงานใส่แมท ,ล้างเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพื่อป้องกันตัวเอง
เรือโท ยุทธนา กล่าวว่า ขณะนี้ได้ออกมาตรการหรือสโลแกนในการทำงานร่วมกัน “หยุดเคลื่อนย้าย หยุดใกล้ชิด หยุดเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง หลีกเลี่ยงการอยู่ร่วมกัน ล้างมือบ่อยๆ เพื่อห่างไกลโควิด-19 “ ซึ่งเป็นการเน้นย้ำให้ทำตาม แต่อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับวินัยของแต่ละบุคคลด้วย
ยืนยงค์ ยินดีทรง/รายงาน