Header Ads

 


ชลบุรี - ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือแหลมฉบัง แจงเหตุตู้สินค้าอันตรายในโกดัง JWD เกิดเพลิงลุกไหม้

จากกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโกดัง JWD ซึ่งเป็นโกดังเก็บสินค้าอันตรายภายในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา จนเกิดกลุ่มควันสีดำพุ่งขึ้นบนท้องฟ้านั้น และเมื่อเวลา 12.00 น. นายวีรชาติ พุทธรักษา ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ได้ออกมาชี้แจงถึงเหตุการณ์​ที่เกิดขึ้นว่า เกิดจากตู้สินค้าอันตรายหมายเลข TLLU2697694 Class 5.2 UN 3106 ซึ่งมีสารเคมีเป็น Orgaic peroxide type d, solid (สารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์) จำนวน 378 กล่อง ที่เกิดปฏิกิริยาจนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ตู้สินค้า 1 ใบ

ในเบื้องต้นพบผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นพนักงาน บริษัท mc logistics จำนวน 154 คน พนักงานลานจอดรถโตโยต้า 23 คน และได้มีการนำตัวส่งโรงพยาบาลวิภาราม จำนวน 6 คน เนื่องจากมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก แสบตานั้น

และเมื่อเวลา 14.45 น..วันนี้ ( 29 ส.ค.)​ ร.อ.กานต์ เมนะรุจิ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ได้ออกมาแถลงยืนยันว่าเหตุเพลิงไหม้ตู้สารเคมีในโกดัง JWD ซึ่งเก็บสินค้าอันตรายนั้น ล่าสุดสามารถควบคุมสถานการณ์​ได้แล้วและท่าเรือฯ ได้ประกาศยุติปฎิบัติการศูนย์ควบคุมเหตุเพลิงไหม้แล้วในเวลา 15.00 น. โดยยันชาวบ้านในพื้นที่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ 

พร้อมบอกว่าหลังได้รับแจ้งเหตุสารเคมีในตู้สินค้าในโกดัง JWD. ที่กักเก็บสินค้าอันตรายเกิดเพลิงไหม้เมื่อ เวลา 10.00 น. นายวีรชาติ พุทธรักษา ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ได้เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุทันทีและ เปิดศูนย์ควบคุมสถานการณ์ฯ ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ โดยได้นำเครื่องมือต่างๆเข้าระดับเหตุดังเพื่อควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดและลดผลกระทบที่เกิดขึ้น ใช้เวลาในการควบคุมสถานการณ์ประมาณ 1ชั่วโมง

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีตู้เก๊บสารเคมีเสียหายจำนวน 2 ตู้ คือตู้ที่เกิดการลุกไหม้ และอีก 1 ตู้ที่ได้รับผลกระทบจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว โดยในช่วงที่เกิดเหตุมีกลุ่มควัน ทำให้บริษัทที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ มีพนักงานที่ได้ผละกระทบจากกลุ่มควันที่ฟุ้งกระจาย จึงรีบนำพนักงานดังกล่าวออกนอกพื้นที่ไม่รวมตัวที่บริเวณหอสังเกตุการณ์ ซึ่งมีประมาณ 14 คน นอกจากนั้นยังตรวจสอบบุคคลที่อยู่ในเคียงเพิ่มเติมหรือไม่อย่างไร ส่วนบางรายที่มีอาการก็นำตัวส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง

" ขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และสามารถควบคุุมสถานการณ์เรียบร้อยแล้ว  หลังจากนั้นได้แจ้งให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ที่หยุดชะงักในช่วงเวลาดังกล่าว สามารถดำเนินการได้ตามปกติ ส่วนเรื่องที่มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประกาศเตือนประชาชนให้อพยพออกจากพื้นที่หากมีสารเคมีรั่วไหลนั้น ขณะนี้ขอยืนยันว่าตู้คอนเทนเนอร์ที่มีปัญหา ได้นำแยกไปยังพื้นที่ควบคุมที่มีเครื่องมือพร้อมอยู่แล้ว และได้ดำเนินการตามมาตรของกรมควบคุมมลพิษ" 

ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะจากการตรวจสอบพบว่าตัวสารเคมีที่เกิดเพลิงลุกไหม้เป็นเพียงคาร์บอนมอนนอกไซด์ ส่วนกลิ่นนั้นเกิดจากวัสดุที่บรรจุผลิตภัณฑ์เท่านั้น จึงส่งผลกระทบกับผู้ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเฉพาะในแง่ขอบการสูดดมควันเป็นจำนวนมาก

"เราได้ตรวจสอบอย่างชัดเจน สารเคมีที่อยู่ในตู้ ไม่มีผลกระทบในระยะยาว เป็นเพียงช่วงที่เกิดการลุกไหม้เท่านั้น และช่วงเวลาที่เกิดเหตุเพียง 30 นาที และควบคุมเพลิงไว้ได้ และมั่นใจได้ว่าในพื้นที่รอบๆท่าเรือแหลมฉบัง ใช้ชีวิตได้ตามปกติ และไม่มีสารเคมีรั่วไหลจากพื้นที่แน่นอน" ร.อ.กานต์ กล่าว

ขับเคลื่อนโดย Blogger.