Header Ads

 


นนทบุรี แม่ร้องทนายดัง เจออิทธิพลผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านสั่งลูกน้องทำร้ายเด็กวัยรุ่น ตาย 1 สาหัส 2 คดีไม่มีความคืบหน้าแถมต้องหากล้องวงจรปิดเอง

 



นนทบุรี แม่ร้องทนายดัง เจออิทธิพลผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านสั่งลูกน้องทำร้ายเด็กวัยรุ่น ตาย 1 สาหัส 2 คดีไม่มีความคืบหน้าแถมต้องหากล้องวงจรปิดเอง


  เมื่อเวลา 13.00 น วันที่ 8 สิงหาคม 66 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นางสาวนันทิชา ศรีสุข อายุ 36 ปี พร้อมด้วย นางจันทนา จำเริญใหญ่อายุ 48 ปี เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยติดตามคดีหลังลูกชายตนเอง และเพื่อนๆถูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านต่างหมู่บ้านและลูกน้อง รุมทำร้ายจนเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส ตำรวจกับลงบันทึกประจำวันว่าเป็นอุบัติเหตุ ต้องไปหากล้องวงจรปิดมายืนยัน ว่าเป็นการถูกทำร้ายร่างกายจนตายและบาดเจ็บ จึงยอมเปลี่ยนข้อหาให้ใหม่เวลาผ่านมาหลายเดือนคดีกับไม่มีความคืบหน้า ได้เพียงเด็กชายอายุ 13 มารับว่าเป็นผู้ต้องหา ทั้งๆที่ผู้ก่อเหตุมีนับ 10 คน

  นางสาวนันทิชาศรีสุข อายุ 36 ปี แม่ของน้องหงาหรือนายอนุชา ศรีสุข อายุ 16 ปี เล่าด้วยเสียงอันเศร้าสร้อยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 66 เวลา 23.00 น. บนถนนสายหมู่บ้านโสรยา-หนองเหล็ก ตำบลเมืองลีง อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์  โดยลูกชายตนเองพร้อมด้วยเพื่อนๆมี เด็กชายณัฐวุฒิ หรือเล็ก สุดโสม อายุ 14 ปี (ผู้เสียชีวิต) และเพื่อนอีก 3 คน มี เด็กชายก้องหล้า หรือหรั่ง จำเริญใหญ่ อายุ 14 ปี เด็กชายวรินทร์ หรือยักษ์ บุญครอง อายุ 13 ปี และนายวิทวัส หรือเด้ง สุขจิต อายุ 18 ปี ทั้งหมดรวม 5 คน นั่งพูดคุยจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้านของตนเอง ในหมู่บ้านดงเค็ง ก่อนที่นายเล็ก ผู้เสียชีวิต และเพื่อนๆทั้ง 4 คน พากันขี่มอเตอร์ไซค์ 2 คัน รวม 5 คน เพื่อไปเอาเสื้อที่บ้านแฟนสาวของนายเล็ก ซึ่งอยู่หมู่บ้านทวารไพร ห่างออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร 

  ระหว่างขี่ผ่านเข้าไปหน้าหมู่บ้าน ได้เจอนายจำลอง ขอสงวนนามสกุล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทันทีที่เห็นกลุ่มลูกชายของตน นายจำลอง ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มลูกชายของตนจนแตกกระเจิง จากนั้นได้สั่ง ให้วัยรุ่นในหมู่บ้านนับ 10 คน ขึ้นรถกระบะ ที่มีนายตุ๊ เป็นคนขับ ไล่ตามไปติดๆ นายยักษ์กับนายเด้ง เพื่อนลูกชายเห็นท่าไม่ดี เลยขี่หนีเข้าไปหลบในป่า ส่วนน้องหงา น้องหรั่ง และนายเล็ก (ผู้ตาย) ทั้ง 3 คน ถูกรถกระบะพุ่งชนจนล้มลง ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นที่ขี่แต่ จยย.ตามมา จะร่วมกันใช้อาวุธมีด และไม้ กระหน่ำ รุมตี น้องหงาลูกชายตนเอง จนสมองบวม ใบหน้าเละ กระดูกคอหัก 2 ท่อน ต้องนอนอยู่ในห้อง ICU ส่วนน้องหรั่ง เห็นท่าไม่ดี จึงรีบกัดลิ้นตัวเองจนเลือดไหล แล้วทำท่า แกล้งตาย แต่ก็ยังไม่วายถูกกลุ่มวัยรุ่นลูกน้องผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เตะกระทืบไปอีกหลายทีทั้งๆที่แกล้งตาย โดยทั้งหมดพูดว่า "พวกเรากลับกันได้แล้ว รอให้ตำรวจมาเก็บงานมัน"

  หลังก่อเหตุจนหนำใจแล้วทั้งหมดได้หลบหนีไป นายยักษ์กับนายเด้ง จึงออกมาจากป่าหญ้าและมาดูเพื่อนๆ ทั้ง 3 คน ก็พบว่า นายเล็กเสียชีวิตคาที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ ส่วนน้องหงากับน้องหรั่ง บาดเจ็บสาหัส จึงร้องตะโกนให้คนช่วย ระหว่างนั้นได้มี รองนายก อบต.ชุมแสง ขับรถผ่านมา และทราบเรื่อง จึงนำทั้งหมดส่งโรงพยาบาลจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลีง มาตรวจสอบ

  แต่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีกลับลงบันทึกประจำวันว่าเป็นอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตตนและญาติๆ แปลกใจมากเพราะลูกชายบอกว่า ถูกทำร้ายจากวัยรุ่นลูกน้องผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนับ 10 คน จนเสียชีวิตและบาดเจ็บ ตนต้องออกหากล้องวงจรปิดและนำมายืนยันกับตำรวจด้วยตนเอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยอมเปลี่ยนแปลง แก้ไขบันทึกประจำวัน เป็นข้อหาใหม่ "ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บสาหัส" แต่คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับเด็กชายอายุ 13 ปี ได้เพียงคนเดียว โดยเด็กชายคนดังกล่าวก็ยืนยันว่าไม่ได้ร่วมก่อเหตุลงไปทำร้าย เพียงแต่อยู่บนหลังรถปิคอัพเท่านั้น ส่วนคนที่ทำร้ายภาพจากในกล้องวงจรปิดมีทั้งอาวุธมีด -อาวุธปืน-อาวุธไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมตัวได้เลย ตนคิดว่าคู่กรณีน่าจะมีอิทธิพล ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่กล้าดำเนินคดี แถมยังพูดให้พวกตนเจ็บใจว่า ทำไปคดีก็ไม่คืบยกฟ้องหมดแหละ ตนหมดหนทางที่จะพึ่งพา จึงต้องเดินทางไกลมาจากจังหวัดสุรินทร์เพื่อมาร้องทนายรณรงค์ให้ช่วยเหลือในด้านคดีด้วย

  ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่าเรื่องนี้ ต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียดก่อนว่าเรื่องราวมันเกิดอะไรขึ้นก่อนจะเกิดเหตุปะทะกันจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส ส่วนที่ทางแม่ของน้องผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีก็สามารถยื่นเรื่องขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนได้ ซึ่งได้มีการร้องเรียนไปที่ ผบก.ภ.จ.สุรินทร์ แล้วแต่ไม่สามารถเปลี่ยนตัวให้ได้นั้น หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายเดินทางไปยื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมกับทาง ผบ.ตร.หรือไม่ก็พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง.ผบ.ตร.ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นมีทั้งคนเจ็บ คนเสียชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกมาชี้แจงเรื่องราวให้ชัดเจนตรงไปตรงมา อย่างกรณีนี้ชื่อเจ้าของรถกระบะที่ชนน้องจนเสียชีวิตเป็นอีกชื่อหนึ่งแต่กลับมีการให้เยาวชนอายุ 13 ปี มาแสดงตัวว่าเป็นคนขับ เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบถึงคนที่ใช้ให้เด็กออกมารับผิดแทนจะต้องถูกดำเนินคดีด้วยในข้อหาให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่พนักงาน คดีนี้ไม่ได้จบแค่คดีเดียวแต่ยังมีอีกหลายคนที่ต้องถูกดำเนินคดีด้วยตำรวจต้องทำอย่างตรงไปตรงมา


ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต

ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี







ขับเคลื่อนโดย Blogger.