Header Ads

 


คนละครึ่ง เฟส5 เริ่มแล้ว ร้านค้าบ่นอุบเศรษฐกิจไม่ดี รอบนี้ให้น้อยแถมคนไม่ค่อยร่วมโครงการแล้ว

 



คนละครึ่ง เฟส5 เริ่มแล้ว ร้านค้าบ่นอุบเศรษฐกิจไม่ดี รอบนี้ให้น้อยแถมคนไม่ค่อยร่วมโครงการแล้ว



นนทบุรี วันที่ 1 ก.ย.2565 เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังร้านค้าที่ร่วมโครงการ"คนละครึ่ง" บริเวณหมู่บ้านพฤกษา3 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังจากวันนี้เป็นวันแรกที่เปิดให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนและใช้สิทธิ์โครงการ "คนละครึ่ง"เฟส 5 ไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค.65 โดยรัฐจะสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป รวมไปถึงบริการขนส่งสาธารณะ ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ในอัตราร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 800 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ รวมถึงหากไม่ใช้สิทธิครั้งแรกภายในวันที่ 14 กันยายน 65 นี้ ก็จะถูกตัดสิทธิทันทีอีกด้วย


นาย สัมฤทธิ์ เคนดา อายุ34ปี ร้านสินค้า ซูเปอร์โปร ซึ่งเปิดร้านมา2ปีกว่าๆ และให้ประชาชนมาใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งมาตั้งแต่รอบแรก กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งรอบนี้ ไม่ดีเหมือนรอบที่ผ่านๆมา ตั้งแต่ช่วงเช้าไม่ค่อยมีคนมาใช้สิทธิ์ซื้อของเท่าไร อาจจะเพราะด้วยเศรษฐกิจไม่ดีทำให้คนไม่ค่อยออกมาซื้อของใช้กันซักเท่าไรถึงแม้ว่ารัฐจะช่วยออกครึ่งนึงแล้วก็ตาม แต่รอบนี้จะได้เพียงแค่ 800 บาทต่อคนเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากถ้าเทียบกับรอบที่ผ่านๆมา และเหมือนว่าประชาชนเองก็มีปัญหาในเรื่องของการเติมเงินเข้าระบบผ่านแอปพลิเคชั่น "เป๋าตัง"เพราะการใช้สิทธิ์คนละครึ่งนี้จะต้องเติมเงินเข้าระบบเป๋าตังค์ก่อน ชาวบ้านบางคนโดยเฉพาะผู้สูงอายุจะมีปัญหาในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีตรงนี้ และทางร้านเองก็ต้องยอมรับว่าด้วยภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ก็ซื้อของมาเตรียมให้ลูกค้าใช้สิทธิ์คนละครึ่งน้อยมาก เพราะมีลูกค้าบางคนบ่นว่าการใช้คนละครึ่งมีความยุ่งยากหลายขั้นตอน ไม่สะดวก แถมรอบนี้ให้เพียงแค่800บาท ซึ่งถือว่าน้อยมาก ส่วนตัวมองว่าถ้าเปลี่ยนเป็น1,500 บาทต่อคนจะช่วยได้มากกว่า นอกจากนี้ที่ร้านก็ประสบปัญหาในเรื่องของการเติมเงินเข้าระบบให้ลูกค้าเช่นกัน เพราะลูกค้าไม่ได้มาใช้สิทธิ์ที่ร้านเราร้านเดียว 


นาง ติ๋ม (สงวนชื่อนามสกุลจริง)อายุ 49 ปี เจ้าของร้านติ๋มต้มเลือดหมู กล่าวว่า วันนี้ไม่คึกครื้นเท่าไร แต่ยังพอมีคนมาสแกนใช้สิทธิ์อยู่ ส่วนตัวแล้วการใช้คนละครึ่งไม่ค่อยมีผลอะไรกับตนอยู่แล้ว แต่ที่จะมีผลคือเรื่องของวัตถุดิบต่างๆ และราคาก๊าซที่สูงขึ้น ซึ่งทั้งวัตถุดิบและก๊าซต่างขึ้นราคากันหมด แต่ตนไม่สามารถปรับขึ้นราคาค่าอาหารได้ ราคาก๊าซจากที่เติมเองราคา 290บาท ตอนนี้เป็น 375บาทแล้ว เดือนนึงขึ้นราคา 2-3รอบ ซึ่งโครงการคนละครึ่งนี้ไม่สามารถช่วยเหลือร้านค้าได้ ช่วยเหลือได้แต่ผู้ซื้อเท่านั้น ก่อนหน้านี้ตนได้ยกเลิกและไม่รับโครงการคนละครึ่งไปแล้วรอบนึง เนื่องจากดูข่าวว่าผู้ประกอบการร้านค้าหลายร้านมีการถูกเรียกเก็บภาษีด้วย ซึ่งทำให้ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากแทนที่จดได้กำไรกลับต้องเอาเงินตรงส่วนนี้มาจ่ายภาษีแทน และการที่เราจะถอนเงินจากระบบเพื่อที่จะนำเงินไปซื้อวัตถุดิบมาขายที่ร้านนั้นนั้นก็ยุ่งยาก เพราะเงินที่ลูกค้าโอนผ่านแอพฯเป๋าตังมันไม่ได้โอนเข้ามาให้เราในครั้งเดียว ซึ่งรอบนี้ได้เพียงแค่ 800บาทต่อคนเท่านั้น มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มากแต่ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย 


ทางด้าน นาย ชยพล แหวนวงษ์ อายุ 41 ปี พนักงานบริษัท ผู้ที่ได้รับสิทธิ์โครงการคนละครึ่ง กล่าวว่า รอบนีทางรัฐช่วยเหลือเพียงแค่800บาทเท่านั้นซึ่งถือว่าน้อยมาก ใช้เพียงแค่3-4วันก็น่าจะหมดแล้ว ถ้าเป็นไปได้น่าจะให้เหมือนรอบที่แล้ว ประมาณ1,200 บาท รอบนี้จึงต้องบริหารจัดการดีๆ อย่างน้อยก็ช่วยแบ่งเบาภาระได้ในระดับนึง เพราะตนเองก็มีค่าใช้จ่ายต่างๆทั้งค่าน้ำมัน ค่าข้าว ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งถ้าเป็นไปได้ตนก็อยากให้เพิ่มวงเงินขึ้นไปอีก ให้ได้เท่ากับรอบที่แล้วก็จะดีมาก เพราะรอบนี้ต้องถือว่าน้อยมากจริงๆ และขอฝากไปถึงหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อยากจะให้ช่วยเหลือกลุ่มแรงงานหรือพนักงานพาร์ทไทม์ต่างๆ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้เงินเดือนจะน้อยมาก โครงการนี้ถือว่าช่วยเหลือได้ในระดับนึง แต่รอบนี้ได้เพียงแค่800บาทเท่านั้น จึงอยากให้ช่วยเหลือปรับวงเงินเป็นเท่ากับรอบที่ผ่านมาจะดีมาก


ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต

จ.นนทบุรี







ขับเคลื่อนโดย Blogger.