Header Ads

 


บิ๊กหิน นำทีมบุกทลายแก็งต่างชาติหลอกลงทุนออนไลน์ กลางรีสอร์ทหรูเชียงใหม่

 


วันที่19พ.ค. 65 พล.ต. อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช.ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5  พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พล.ต.ต.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล ผบก.ตม.5 ชุดสืบสวน ศปชก.ภ.จว.เชียงใหม่ ร่วมกันแถลงผล การบุกจับกุม ทลายขบวนการหลอกลงทุนออนไลน์ Hybrid Scam จับกุมผู้กระทำผิดทั้งไทยและต่างชาติ 24 คน กลางรีสอร์ทหรู เชียงใหม่ 

โดย พล.ต.อ.วิสนุฯ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้เร่งสืบสวนกวาดล้างขบวนการคนร้ายต่างชาติในพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พ.ค.2565 เป็นต้นมา  ได้สืบสวนหาข่าว จนพบพฤติการณ์คนไทยและคนต่างชาติมีการรวมตัวเช่าที่พักโดยมีพฤติกรรมที่เป็นพิรุธผิดปกติ จึงได้นำหมายค้นศาลจังหวัดฝาง นำทีมชุดปฏิบัติการเข้าตรวจค้น โรงแรม BK Resort and BK Coffee เลขที่ 351 ม.7 ต.แม่สูน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 

พบคนไทยและต่างชาติ จำนวน 24 คน เป็นชาย 22 คน และหญิง 2 คน โดยทั้งหมดนี้ เป็นคนสัญชาติจีน 20 คน นอกนั้นเป็นคนท้องถิ่นในพื้นที่ 4 คน

ขณะที่ทุกคนกำลังทำงานพร้อมของกลาง เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุค 10 เครื่อง จอคอมพ์ 10 จอ ซีพียูคอมพ์ 10 เครื่องและ โทรศัพท์มือถือ 224 เครื่อง ซิมการ์ด 6 อัน และ แฟลซไดร์ฟ 2 อัน ใช้ผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ต 

โดยพบว่ามีการสร้างบัญชีผู้ใช้ปลอมในแอพลิเคชั่นหาคู่ต่างๆ และแอพลิเคชั่นไลน์ เป็นชื่อที่สมมติขึ้นมาเองและใช้ภาพโปรไฟล์หญิงสาวสวยที่หามาจากช่องทางออนไลน์ เพื่อสนทนาหลอกลวงเหยื่อ ทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น  จากนั้นได้มีการสนทนาหว่านล้อม เพื่อหลอกให้เหยื่อตกหลุมรักหรือไว้วางใจ แล้วจะวางกลอุบายให้เหยื่อร่วมลงทุนโดยให้เปิดบัญชีในแอพลิเคชั่น metatrader เพื่อเข้าสู่กระบวนการหลอกเอาเงินมาลงทุน โดยมีทีมที่สร้างข้อมูลบนแพลตฟอร์มที่สร้างปลอมขึ้นมา เพื่อหลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่ามีการเทรดเงินได้จริง เมื่อผู้เสียหายหลงโอนเงินลงทุน ก็ตัดขาดการติดต่อ สูญเงินฟรี

 จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า พวกตนจะได้ค่าตอบแทนจากการทำงานดังกล่าวจำนวน 25,000 – 35,000 บาท ต่อเดือน และได้มีการเช่าเหมาพักอาศัยในรีสอร์ทที่เกิดเหตุ โดยจะมารวมตัวกันทำงานที่อาคารออฟฟิศด้านหลังที่พักดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 09.00 – 21.00 น. ในวันจันทร์-ศุกร์ และเวลา 12.00 – 17.00 น. ในวันเสาร์-อาทิตย์ 

 จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ว่า “สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเป็นซ่องโจรเพื่อร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น , ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน " และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในส่วนผู้ต้องหาชาวจีนว่า " เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุด”

โดย พล.ต.อ.วิสนุฯ กล่าวว่า  ในส่วนของผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 20 คน  ได้สั่งการให้ตรวจสอบการเข้าออกราชอาณาจักร และการขอวีซ่าของกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีน เพื่อตรวจสอบเส้นทางความเชื่อมโยงของผู้ต้องหาและเครือข่ายขบวนการที่เกี่ยวข้อง 

พล.ต.อ.วิสนุฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะ จว.เชียงใหม่ เชียงราย เป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการแฝงตัวของคนร้ายข้ามชาติ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของภาคเหนือ ซึ่งในช่วงเดือน มิ.ย. นี้ จะจัดเสวนาเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านคนร้ายข้ามชาติในพื้นที่ ภ.5 และ เจ้าหน้าที่ ศปชก.ตร.ส่วนกลาง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าว และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแนวโน้มการเคลื่อนไหวของอาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการป้องกันปราบปรามทันรองรับการเปิดประเทศของรัฐบาลต่อไป 







ขับเคลื่อนโดย Blogger.