หนีร้อนมาพึ่งเย็น ชาวบ้านพายเรือมานั่งจับกลุ่มคุยกันใต้ต้นไม้ หนีความร้อนในบ้านที่ถูกน้ำท่วมหนุนที่นอนสูงแทบติดหลังคาบ้าน
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ยังคงถูกท่วมในหลายพื้นที่ ล่าสุดกรมชลประทานมีการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่
2,686 ลบ.ม./วินาที และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อยู่ที่ 1,000
ลบ.ม./วินาที เขื่อนพระราม 6 อยู่ที่ 938 ลบ.ม./วินาที
ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำและคลองธรรมชาติ นอกคันกั้นน้ำชลประทาน
ได้รับผลกระทบน้ำเอ่อล้นตลิ่งจากแม่น้ำน้อย คลองโผงเผง และคลองบางบาล
ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมขัง รวมแล้วกว่า 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่
อำเภอบางบาล อำเภอเสนา อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน อำเภอพระนครศรีอยุธยา
อำเภอนครหลวง อำเภอท่าเรือ อำเภอบางปะหัน และอำเภอมหาราช รวมกว่า 130 ตำบล 683
หมู่บ้าน 31,030 ครัวเรือน
เช้าวันที่ 7 ตุลาคม
2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยัง หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านกระทุ่ม อำเภอเสนา
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบสภาพบ้านเรือนพี่น้องประชาชนถูกน้ำท่วมสูง
ได้รับผลกระทบจากน้ำในแม่น้ำน้อย ขึ้นสูงจนเข้าท่วมบ้าน บ้านสูงกว่า 2
ชั้นตอนนี้ก็ท่วมถึงชั้น 2 ต้องหนุนข้าวของ เกือบเท่าริมน้ำต่าง
และยังชาวบ้านพายเรือมานั่ง จับกลุ่มรวมตัวคุยกันใต้ต้นไม้ใหญ่ริมถนน
เนื่องจากอากาศภายในบ้านที่ร้อนจัด เนื่องจากต้องหนุนข้าวของสูง
บางบ้านหนุนข้าวของสูงเกือบติดกับหลังคาห่างไม่ถึงเมตร
คุณยาย สังเวียน ศรีนางแย้ม อายุ 84
ปี ชาวบ้าน ที่อาศัยอยู่ภายในชุมชน เล่าว่าตนเองอยู่ บ้านเลขที่ 52 หมู่ที่ 2
ตำบลบ้านกระทุ่ม ตอนนี้ต้องมาอยู่ในเรือ อยู่ในบ้านไม่ได้ ร้อนมาก
เช้ามาก็ต้องออกกันมาแล้ว ที่บ้านน้ำท่วมชั้น 2 แล้ว และเตรียมจะหนุนขึ้นอีกแล้ว เมื่อคืนขึ้นมาอีก
5 เซนติเมตร เตรียมข้าวของบางส่วนออกมาเต้นริมถนน แต่ก็ยังห่วงข้าวของในบ้าน
ตอนนี้หนุนข้าวของไว้ หุงกินก็อยู่ในบ้าน โดยทุกวันนี้ เช้าออกมา
พอเย็นถึงเวลากินเข้าก็ถึงจะเข้าไปทำกับข้าวในบ้านแล้วก็นอน
พอเช้าก็ออกมาเป็นอย่างนี้ทุกวันในตอนนี้เพราะในบ้านร้อนทนไม่ไหว แทบเท่าปี 54
ลำบาก รายได้ก็ไม่มี แต่ก็ต้องทนเพราะใครก็ท่วมกันหมดเหมือนกัน
ศักดริน พุทธคาวี ( ต้น 089 – 886 – 2828 )