Header Ads

 


 จังหวัดอุตรดิตถ์ฉีดวัคซีน "ซิโนฟาร์ม" พระราชทานในศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ให้กับกลุ่มเปราะบาง ผู้พิการและพระภิกษุสงฆ์




วันที่ 8 กันยายน 2564


ที่วัดป่าเซ่า  อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ นายผล  ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจในการเริ่มทยอยฉีดวัคซีน "ชิโนฟาร์ม" พระราชทาน แก่ประชาชนกลุ่ม กลุ่มเปราะบาง ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส/ชุมชนแออัด ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยติดเตียงผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรัง พระภิกษุ/นักบวช ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบนัดของวัคซีน ทั้งจังหวัด 903 คน  ซึ่งได้ประชุมผู้เกี่ยวข้อง และมีมติจัดสรรให้ผู้พิการ จำนวน 74 คน ผู้ป่วยติดเตียง / ติดบ้าน จำนวน 271 คน ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป/ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง จำนวน 158 คน พระภิกษุ จำนวน 195 รูป ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบนัดของวัคซีน จำนวน 205 คน รวม 903 คน สำหรับจังหวัดอุตรดิตถ์สามารถบรรลุเป้าหมายในการฉีดวัดชีนภายในเดือนนี้ (กันยายน 2564) กลุ่มโรคประจำตัว 7 โรคและผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้น ได้ร้อยละ 70 และในเดือน ตุลาคม 2564 นี้ จะสามารถฉีดให้ครบจำนวนประชากรของจังหวัดได้เกินกว่าร้อยละ 70 ชึ่งมากที่สุดในกลุ่ม 5 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง

นายผล  ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ด้วยศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โปรดเกล้าฯ พระราชทานวัคซีนป้องกัน COVID-19 "ชิโนฟาร์ม" ให้แก่ประชาชนกลุ่ม ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส/ชุมชนแออัดผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรัง พระภิกษุ/นักบวช ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบนัดของวัคซีน เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซินสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วที่สุด ซึ่งจะสามารถป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้กระจายวัดซีนไปยังจุดให้บริการวัคซีนในพื้นที่ครอบคลุมทั้ง 9 อำเภอ เพื่อดำเนินการฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมาย  แบ่งเป็นกลุ่ม ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้พิการ และผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบของวัคซีน ไม่มีเลขบัตรประชาชน จำนวนร้อยละ 80 ของจำนวนวัคซีนที่ได้รับพระราชทาน และอีกร้อยละ 20 จะฉีดให้แก่ พระสงฆ์ และผู้นำศาสนาทุกศาสนา


นาคา คะเลิศรัมย์(ผู้สื่อข่าว)






ขับเคลื่อนโดย Blogger.