Header Ads

 


 ลุงเจ้าของร้านตัดผม ผู้เสียหายถูกกลุ่มวัยรุ่นนับสิบรุมทำร้ายร่างกายภายในวัดเขมา เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองนนทบุรี




   จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ้กชื่อเจ๊ม้อย v plus ได้ลงคลิปปลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายคนแก่ในวัดระบุข้อความว่า #ทำร้ายลุงเตะเข้ายอดหน้าจนสลบ แกสติสตังค์ไม่ค่อยดี แถมยังเมา ลุงก็ยกมือไหว้ขอโทษแล้ว แต่ก็ยังเข้าไปทำร้าย คนที่รุมก็ใช่ย่อย มีบางคนที่ห้ามแต่เสื้อแดงก็ยังใส่ไม่ยั้ง ไปทำลายกล้องวัดเพื่อลบหลักฐานไปอีก #คลิปในเม้นท์

คิดยังไงกับวัยรุ่นกลุ่มนี้ทำร้ายคนแก่ (รูดทรัพย์ด้วยมั้ยอ่ะ) ทำลายกล้องของวัด เหตุเกิดขึ้นเมื่อคืนครับณ.วัดเขมาภิรตารามวัดพระอารามหลวง จ.นนทบุรี เขตวัดไม่ควรจะเกิดเรื่องแบบนี้"

    ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 มิถุนายน 64 ที่ สภ. เมืองนนทบุรี นายไสว งามเนตร อายุ 51 ปี เจ้าของร้านตัดผม "ไสวบาร์เบอร์" ใกล้วัดเขมาภิรตาราม เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.วนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ ผกก.สภ. เมืองนนทบุรี เพื่อให้ปากคำหลังตนเองถูกวัยรุ่นในวัดเขมา รุมทำร้ายร่างกาย บริเวณริมเขื่อนแม่น้ำ ของวัด จนได้รับบาดเจ็บ

  นายไสว เปิดเผยว่า คืนวันที่ 14 มิถุนายน 64  ตนนั่งเล่นอยู่ภายในวัดแล้วพวกวัยรุ่นทั้งหมดซึ่งรู้จักกันดี มีหลายคนในกลุ่ม ก็เคยตัดผมให้ประจำ เดินผ่านมา ตนจึงร้องไปว่า  เฮ้ยพวกมึงไปไหน รู้ไหม พ่อมึงอ่ะ รุ่นน้องกู เนื่องจากตนเองใส่แหวนรุ่น โรงเรียนช่างกลพระนครเหนือ ของลูกชายที่ตายไปเลยเอามาใส่  และพูดบอกไปทำให้กลุ่มวัยรุ่นที่ใส่เสื้อแดงไม่พอใจและตรงมาหาตน ตะคอกตน ถามว่า เมื่อกี้มึงพูดว่า "พ่อกู ลูกน้องมึงเหรอ" โดยพูดคำนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตามที่เห็นในคลิป ซึ่งตนก็บอกไปว่าไม่ได้บอกว่าลูกน้องบอกว่ารุ่นน้อง แต่เขาไม่ฟัง ตรงเข้ารุมทำร้ายตนเองจนสะบักสะบอม ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า ปวดเนื้อปวดตัวตามร่างกายหลายแห่ง หลังจากคลิปเผยแพร่ไป ทางผู้กำกับ สภ.เมืองนนทบุรี จึงให้ ร.ต.อ. ชัยยงค์ อ้วนมะโฮง ร้อยเวรอาญา สภ. เมืองนนทบุรี โทรติดต่อให้ตนเดินทางมาให้ปากคำที่โรงพักทันที ทีแรกก็ไม่อยากจะเอาเรื่องเพราะเป็นคนรู้จักกันอยู่ใกล้กัน อีกอย่างตนก็กลัวว่าว่าเขาจะกลับมาทำร้ายร่างกายในภายหลังเลยไม่อยากมีเรื่องมีราว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปละกัน

  "แผลเริ่มจะหายแล้ว ผ่านไปประมาณ 4-5วันแล้ว คนตีเข้าใจผิด บอกว่าตนเรียกพ่อเขาว่าลูกน้อง แต่จริงๆคือรุ่นน้อง หลังจากนั้นก็ตามในคลิป ส่วนตัวแล้วก็รู้จักกับครอบครัวนี้ เป็นลูกหลานอยู่ในบริเวณนั้น ตอนแรกตนจะไม่มาแจ้งความ แต่มีคลิปหลุดออกไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมาที่บ้านตน ส่วนเรื่องที่จะไม่แจ้งความก็มีกลัวบ้างกลัวเขาจะกลับมาทำร้ายอีก เด็กพวกนี้เห็นและตัดผมให้มาตั้งแต่อนุบาล ส่วนเรื่องแผลมีแต่รองฟกช้ำแต่ที่หนักๆเลยคือแขนดึงไม่ขึ้น วันที่เกิดเหตุตนนั่งอยู่คนเดียวตามในคลิปและเด็กๆก็เดินเข้ามาหาเรื่องแน่นอนไม่มีการขอเงินแต่อย่างใด ตนอยากได้แหวนของลูกชายที่ตายไปกลับคืนมา" นายไสว กล่าว

   พ.ต.อ.วนัสชัย เผยเพิ่มเติมว่า  หลังให้ปากคำเสร็จจะส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ รพ.พระนั่งเกล้า เพื่อประกอบสำนวนคดี และจะเรียกตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาเปรียบเทียบปรับ ข้อหาทำร้ายร่างกาย และจะให้ขอโทษคนเจ็บ รวมทั้งจะบันทุกทำประวัติส่งตัวไปบำเพ็ญสาธารณะประโชยน์เพื่อดัดนิสัย "คนที่อยู่ในคลิปมี 10 คน ทำร้ายผู้เสียหาย 3-4 คน ตอนนี้กำลังเดินทางมา 9 คน ส่วน หัวโจกยังติดต่อไม่ได้ เข้าใจว่าคงตกใจกลัว เผ่นหนีไปตั้งหลัก อยู่ระหว่างประสานผู้ปกครองให้นำตัวมาโรงพัก


ภาพ/ข่าว  ฉัตรมงคล สิงห์โต







ขับเคลื่อนโดย Blogger.