Header Ads

 


ศรีสะเกษ คืบหน้าสาวแจ้งจับ นายก อบต.โหดโต้ลั่นไม่ได้บีบคอทุ่มลงกับพื้น ขณะที่พ่อเสียใจกลัวลูกสาวได้รับอันตรายขอให้ย้ายออกนอกพื้นที่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  จากกรณีที่ น.ส.นันทวดี  อรรคบุตร  อายุ  39 ปี อาชีพรับราชการตำแหน่ง นักพัฒนาชุมชนชำนาญการ กองสวัสดิการสังคม อบต.แห่งหนึ่งในเขต อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ได้ถูก นายก อบต. บีบคอ ลากเอาร่างลงมาจากบันได แล้วผลักทุ่มให้ล้มลงกับพื้นที่ทางเดินก่อนขึ้นบันไดอย่างแรง โดยมีเจ้าหน้าที่ของ อบต.หลายคนเห็นเหตุการณ์  ทำให้ น.ส.นันทวดี ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายทั้งตัวและได้เข้าแจ้งความกับร.ต.อ.ปรีชา นาคาแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ราษีไศล เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับ นายก อบต.จอมโหด ขณะที่ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ได้มาให้ปากคำเพื่อเป็นพยานในคดีนี้แล้ว ซึ่งพยานทุกคนได้ให้การตรงกันว่า เห็นเหตุการณ์ที่ นายก อบต.ทำร้าย น.ส.นันทวดี จนทำให้ได้รับบาดเจ็บจริง ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 ก.ย. 63  ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ บ้านแตงแซง ต.ดู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ   ซึ่งเป็นบ้านของ  นายพีรพงษ์   ศรีอนันต์กูร อายุ 56 ปี  นายก อบต.ดู่  ซึ่งถูก น.ส.นันทวดี แจ้งความดำเนินคดี พบว่า  นายก อบต.ดู่  กำลังพักผ่อนอยู่ในภายในบริเวณ  โดยได้กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า  วันที่เกิดเหตุตนออกจากบ้านหลังนี้เพื่อไปทำงานที่ อบต.ดู่ตามปกติ  และปรากฏว่า ขณะที่ตนกำลังเดินขึ้นบันได  น.ส.นันทวดี ได้เดินตามหลังตนมาและได้พูดจาต่อว่าตนหลายอย่าง เนื่องจากว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยคบหากับ น.ส.นันทวดี มาก่อน จนกระทั่งตนได้จดทะเบียนสมรสกับเจ้าหน้าที่ อบต.ดู่คนหนึ่งเพื่ออยู่กินกันฉันสามีภรรยา  จึงได้เลิกคบกับ น.ส.นันทวดี  โดย น.ส.นันทวดี ได้ต่อว่าตนด้วยถ้อยคำหยาบหลายอย่าง และได้ทวงคืนเงินจำนวน 3,000 บาท  ที่ตนได้ยืมจาก น.ส.นันทวดีไป  ทำให้ตนโกรธที่โดนด่าว่า จึงได้ร้องถามไปว่า “มึงจะเอาอะไรกับกู”  จากนั้น  ตนได้เดินกลับลงจากบันไดมาแต่ว่า น.ส.นันทวดี  ซึ่งสวมรองเท้าส้นสูงได้เสียหลักผลัดตกจากบันไดลงมาประมาณ 3 ขั้น ลงมากองอยู่กับพื้น โดยที่ตนไม่ได้บีบคอหรือว่าทำร้ายร่างกายของ น.ส.นันทวดีแต่อย่างใด จากนั้น ตนได้ขึ้นรถเดินทางกลับบ้าน

นายก อบต.ดู่  กล่าวต่อไปว่า ส่วนการที่ น.ส.นันทวดี ได้รับบาดเจ็บที่เท้าข้างขวาบริเวณนิ้วก้อยนั้น  เนื่องจากว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.นันทวดี ได้รับอุบัติเหตุเพราะจูงสุนัขที่บ้านและพลาดเท้าไปโดนขอบปูนทำให้นิ้วเท้าเจ็บ ไม่น่าจะเกิดจากการที่พลัดตกจากบันไดสำนักงาน    ส่วนที่บริเวณหัวเข่าที่มีรอยช้ำนั้น ตนเชื่อว่า เกิดจากการพลัดตกจากบันไดจริง  ตนขอยืนยันว่า ไม่ได้บีบคอทำร้ายร่างกายของ น.ส.นันทวดี แต่อย่างใด  และขอฝากถึง น.ส.นันทวดีว่า เราตกลงเลิกคบหากันแล้ว และตนมีครอบครัวใหม่ ควรที่จะต่างคนต่างอยู่หากมีอะไรก็สามารถพูดจากันได้  ส่วนการที่ น.ส.นันทวดี จะขอย้ายจาก อบต.ดู่นั้น เป็นสิทธิ์ที่จะทำได้ แต่ว่า ตนไม่มีสิทธิ์สั่งย้าย น.ส.นันทวดี ออกไปอยู่ที่อื่น  แต่ว่า น.ส.นันทวดี สามารถทำงานที่เดิมได้ เพราะว่า ต่างคนต่างทำงานไม่ได้ข้องเกี่ยวกันอยู่แล้ว  การที่ น.ส.นันทวดีไปแจ้งความดำเนินคดีกับตนนั้น  เชื่อว่า เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับเรื่องงานแต่อย่างใด

ต่อมา  ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 104  หมู่ 3 บ้านหนองดุม ต.ไผ่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ  น.ส.นันทวดี  อรรคบุตร  อายุ 39 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่กับพ่อคือ นายใบ  อรรคบุตร  อายุ  84 ปี  โดย น.ส.นันทวดี ยังอยู่ในอาการที่ยังไม่หายจากความเจ็บปวดบริเวณนิ้วก้อยเท้าข้างขวาที่เข้าเฝือกเอาไว้  มีไม้เท้าค้ำรักแร้วางอยู่ข้างตัวเพื่อใช้ในการเดินเข้าห้องน้ำในบ้าน โดย น.ส.นันทวดี ได้กล่าวว่า  การที่ นายก อบต.ดู่ ปฏิเสธว่า ไม่ได้ทำร้ายตนนั้น  เป็นการพูดเท็จเพราะว่า ขณะเกิดเหตุมีผู้เห็นเหตุการณ์หลายคน  การที่บอกว่า นิ้วเท้าข้างขวาของตนแตกมาก่อนนั้น อาการบาดเจ็บได้หายนานหลายวันแล้ว   แต่ว่า เมื่อโดน นายก อบต.ดู่ทำร้ายทุ่มลงกับพื้นทำให้นิ้วก้อยเท้าด้านขวาแตกร้าวขึ้นมาอีก  

น.ส.นันทวดี  กล่าวต่อไปว่า  ตนไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับ นายก อบต.ดู่  เพราะว่าช่วงนั้น  ตนหย่าขาดจากสามี  ส่วน นายก อบต.ดู่ หย่าขาดจากภรรยา จึงได้เพียงแค่คบหาดูใจกันเท่านั้น  แต่ว่าเมื่อดูใจกันแล้วไปกันไม่ได้ก็ได้เลิกคบหากัน  ตนขอยืนยันว่า การที่ตนโดน นายก อบต.ดู่ทำร้ายในครั้งนี้  เกิดจากการที่ตนไม่ยอมเซ็นตรวจรับงานก่อสร้างถนนงบประมาณ 1,100,000 บาท ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องชู้สาวแต่อย่างใด

ทางด้าน นายใบ   อรรคบุตร อายุ 84 ปี  พ่อของ น.ส.นันทวดี กล่าวว่า  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะคิดมาถึงว่า จะมีการทำร้ายร่างกายกันรุนแรงมากขนาดนี้  ตนเป็นห่วงลูกสาวมาก  จะขอให้ผู้ใหญ่ที่มีอำนาจขอได้โปรดพิจารณาย้าย น.ส.นันทวดี ลูกสาวของตนให้ออกนอกพื้นที่ไปทำงานที่อื่น  โดยหากเป็นไปได้ ขอให้ย้ายมาทำงานอยู่ที่ อบต.ไผ่ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านเพื่อจะได้ช่วยดูแลตนที่อายุมากแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางด้าน ร.ต.อ.ปรีชา  นาคาแก้ว ร้อยเวรเจ้าของคดีนี้ ได้นัดหมายให้ นายพีรพงษ์   ศรีอนันต์กูร อายุ 56 ปี  นายก อบต.ดู่  ให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 14 ก.ย. 63 เวลา 09.00 น.ที่ สภ.ราษีไศล   เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและสอบปากคำ  แต่เนื่องจากว่า ทนายความของ นายก อบต.ดู่ ติดศาล จ.ศรีสะเกษ จึงได้ขอเลื่อนกำหนดเวลามาพบพนักงานสอบสวนเป็นเวลา 14.00 น. วันเดียวกันนี้







 

ศิริเกษ   หมายสุข ข่าว/ภาพ อัมพณ  จับศรทิพย์​  รายงาน


ขับเคลื่อนโดย Blogger.