หลังจากเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมาที่กองบังคับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำได้มีการจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนามที่เข้ามารุกล้ำทำการประมงในเขตน่านน้ำการทำประมงไทยจำนวน 1 ลำนั้นจากสถิติที่ผ่านมาจากการสืบสวนหาข่าวข้อสังเกตพฤติกรรมของเรือประมงสัญชาติเวียดนามที่เข้ามาลักลอบทำการประมงเมื่อมีการจับกุมแล้วเรือที่กระทำผิดกฎหมายจะเข้ามาลักลอบทำการประมงซ้ำเพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่จับกุมแล้วไม่กล้าจับกุมอีกซึ่ง ด้านกองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำนำโดยพันตำรวจเอก ศราวุฒิ ลิจฉวีราช ผู้กำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ พันตำรวจโท ณัฐพงศ์ ตาแก้ว รองผู้กำกับการ 7 กองกำกับการตำรวจน้ำ ได้วางแผนเปิดยุทธการย้อนศรเพื่อป้องกันปราบปรามและจับกุมเรือที่มีการรุกล้ำน่านน้ำไทยตามนโยบายการปราบปรามการกระทำผิดทางทะเลของผู้บังคับการตำรวจน้ำกระทั่งเมื่อเวลา 13:00 น ของวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมาเรือตรวจการณ์หมายเลข 808สนธิกำลังกับเรือตรวจการณ์หมายเลข 582 ได้ลาดตระเวนในน่านน้ำพื้นที่รับผิดชอบของกองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำจนสามารถจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนามที่เข้ามารุกล้ำทำการประมงได้อีก 1 ลำชื่อเรือ K. G. 94136 TS พร้อมลูกเรือประมงและไต้ก๋งเรือจำนวน 9 คน บริเวณละติจูด 0 6 องศา 43 ลิปดาเหนือลองจิจูด 102 องศา 14 ลิปดาตะวันออก ห่างจากร่องน้ำนราธิวาส ประมาณ 28 ไมล์ทะเล
จากการปฏิบัติการครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกายเพื่อเป็นไปตามมาตรการของการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ covid19 ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตันหยงอำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาสเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าว/แมะอานิง สะอะ จ.นราธิวาส
