Header Ads

 


ศรีสะเกษ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยววอนนายกรัฐมนตรีเปิดช่องสะงำปราสาทพระวิหาร ขอให้เจรจากับฝ่ายกัมพูชาเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 เริ่มคลี่คลายแล้วเพื่อประโยชน์ทางการค้าและการท่องเที่ยวของ 2 ชาติ

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 63  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี   ธรรมจารีย์  ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษและนายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ  และคณะได้เดินทางไปสำรวจบรรยากาศการค้าและการท่องเที่ยวบริเวณช่องสะงำ หลังจากที่ จ.ศรีสะเกษ ได้มีคำสั่งที่ 1604/2563 เรื่อง การระงับการใช้เส้นทางเข้า - ออกของบุคคล  ยานพาหนะและสิ่งของ ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เป็นการชั่วคราว ลงนามโดย นายวัฒนา พุฒิชาติ   ผวจ.ศรีสะเกษ สั่ง ณ วันที่ 21  มี.ค. 63 ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.63 เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ  ซึ่งพบว่า มีชาวกัมพูชานำเอารถยนต์ที่มีการขออนุญาตผ่านเข้า - ออกตามระเบียบของทางราชการนำเอารถบรรทุกสินค้าทั้งผลิตผลทางการเกษตร เครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ  ส่งเข้ามาขายที่ตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำประเทศไทยและซื้อสินค้าจากตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำนำเข้าไปขายในเขตประเทศกัมพูชากันอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งจะต้องมีการจอดรถรอเวลาเข้า -ออก  เนื่องจากว่า ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมีการกำหนดเวลาเปิด – ปิดประตูด่านเพื่อให้รถบรรทุกสินค้าผ่านเข้า - ออก ตามเวลาที่กำหนดไว้  พร้อมทั้งมีการคุมเข้มตามมาตรการป้องการการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 โดย พันเอก จิรัฏฐ์ ช่วงฉ่ำ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี พร้อมด้วย  พ.ต.อ.มณุวัฒน์  กอสนาน  ผกก.ด่านตรวจคนเข้าเมือง จว.ศรีสะเกษ และนายธีระ สุวรรณพงษ์ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ นำกำลังเจ้าหน้าที่ในความรับผิดชอบทำการควบคุมดูแลและอำนวยความสะดวก รวมทั้งทำการตรวจเข้มรถที่ผ่านเข้า - ออกทุกคันเพื่อป้องกันการลักลอบนำเอาสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาภายในประเทศไทยอย่างเต็มที่ ซึ่งสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ

ดร.กัลยาณี  ธรรมจารีย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวศรีสะเกษ และนายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ  กล่าวว่า ได้ทราบข่าวว่าท่าน พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาที่จังหวัดศรีสะเกษ ในวันที่ 16 ก.ค.  2563   ตนจึงอยากขออ้อนวอนให้นายกรัฐมนตรี ได้โปรดกรุณาช่วยเจรจากับทางฝ่ายกัมพูชาว่าจะขอเปิดด่านช่องสะงำแบบ New normal  ได้ไหม เนื่องจากว่า ขณะนี้ จ.ศรีสะเกษอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ ควบคุมโดย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยรัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ก่อนจะเปิดด่านชายแดน จะต้องมีคำสั่งประกาศที่ชัดเจน  ตนอยากขอฝากท่านนายกรัฐมนตรีว่า ขอให้ ถามทางกัมพูชาว่าจะมีมาตรการรองรับคนเข้า-ออกให้ปลอดภัยจากโควิด-19 ได้อย่างไร  เพราะตอนนี้ชาวไทยและชาวกัมพูชาต้องการที่จะมีการค้าขายที่ด่านช่องสะงำมาก   รวมทั้งแรงงานที่ต้องการเข้ามาทำงาน ในประเทศไทยจำนวนมาก  หากมีข้อตกลงร่วมกันในด้านสาธารณสุขและหน่วยงานต่าง ๆที่ช่วยกันดูแลควบคุมไม่ให้มีการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ได้   จะเป็นการช่วยเศรษฐกิจด้านการค้าการท่องเที่ยวได้

ดร.กัลยาณี  กล่าวต่อไปว่า ตนขอฝากอีกเรื่องคือขอวอนให้ท่านนายกรัฐมนตรีช่วยเจรจากับทางกัมพูชาเรื่องการขอขึ้นชมปราสาทเขาพระวิหารทางด้านฝั่งไทยที่บริเวณผามออีแดง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ  เพราะหากมีการเปิดให้คนไทยขึ้นไปชมปราสาทเขาพระวิหารทางฝั่งไทยได้  จะสร้างรายได้ให้เข้าประเทศทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้เป็นอย่างมาก  เพราะคนไทยต้องการที่จะขึ้นชมปราสาทเขาพระวิหารทางฝั่งประเทศไทยมากกว่าที่จะนั่งรถเข้าไปขึ้นทางฝั่งประเทศกัมพูชาเพื่อขึ้นชมปราสาทพระวิหาร เพราะไม่สะดวกและเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าขึ้นทางฝั่งไทย  สถานการณ์ปัจจุบันทราบดีว่า ขณะนี้ทุกคนต้องช่วยกันระมัดระวังในเรื่องของโควิด-19  แต่หากมีการเจรจาก็จะดีกว่านั่งรอโดยไม่ทำอะไรเลย   จึงอยากขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยเจรจาโดยหามาตรการที่ครอบคลุมเหมาะสมและเป็นไปได้  หากเจรจาแล้วทางกัมพูชารับรองมาตรการปลอดภัยจากโควิด-19  และพร้อมเปิดด่านก็จะช่วยเหลือภาคธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวของจังหวัดศรีสะเกษได้เป็นอย่างดี









ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าว จ. ศรีสะเกษ


ขับเคลื่อนโดย Blogger.