ญาติโวย!! ข้าราชการ ระดับซี 7 เสียชีวิตคาห้อง หน่วยงานโยนไปมา 5 ชม.
ญาติโวยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหลัง ข้าราชการระดับ ซี 7 เสียชีวิตในห้องพักด้วยโรคประจำตัว ตำรวจเข้าตรวจสอบพร้อมกู้ภัย แต่ รอแพทย์มาร่วมตรวจกว่า 2 ชั่วโมง จนมาถึงใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที กลับไปเขียนใบชันสูตรที่ รพ. โดยไม่มีใครแจ้งญาติว่าดำเนินการอย่างไร ทิ้งศพอยู่ในที่เกิดเหตุนานกว่า 6 ชั่วโมง ญาติร้อนใจ ให้เอกชนยกศพไปส่งชันสูตรที่ รพ.ตำรวจ เองทั้งหมด
เมื่อเวลาประมาณ 08.25 น. วันที่ 4 เมษายน 2563 ศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ อยู่ที่บริเวณบ้านพักเจ้าหน้าที่สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง เลขที่ 118/12 ม.2 ตำบลทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสาน ร.ต.อ.บุญหลาย อินเอี่ยม ร้อยเวรสอบสวน สภ.แหลมฉบัง และเจ้าหน้าที่แพทย์จากโรงพยาบาลแหลมฉบังเข้าร่วม
ในที่เกิดเหตุบริเวณห้องพักชั้น 4 พบร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่ในห้องนอน ทราบชื่อผู้คือ นายสืบกุล กลิ่นแย้ม อายุ 56 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์ ในระดับ ซี 7 สำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ในสภาพนอนขวางเตียงนอน ขาทั้งสองข้างห้อยลงมาข้างเตียง โดยมี นายไพศาล สุนทรภัทรชารี อายุ 23 ปี หลานชายผู้เสียชีวิต ที่อาศัยอยู่ด้วยกันเป็นผู้พบศพเป็นคนแรก ในเวลาประมาณ 06.30 น. คาดว่าเสียชีวิตช่วงเวลาก่อนเช้ามืด โดยไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย
หลังจากนั้นเวลาประมาณ 09.00 น. ร.ต.อ.บุญหลาย อินเอี่ยม ร้อยเวรสอบสวน สภ.แหลมฉบัง ได้เข้ามาตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลให้เข้ามาร่วมชันสูตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและญาติได้รอเจ้าหน้าที่แพทย์จากโรงพยาบาลแหลมฉบังเข้าร่วมตรวจสอบ แต่ได้รับคำตอบจากโรงพยาบาลว่าให้ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตมาส่งที่โรงพยาบาลเอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ที่สแตนด์บายรอเก็บศพผู้เสียชีวิตก็รอให้ทีมแพทย์ของโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ครบในช่วง พรก.ฉุกเฉินการระบาดของไวรัสโควิด -19 ให้มาตรวจสอบและยืนยันว่าไม่ใช่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็จะดำเนินการตามขั้นตอนและเก็บศพไปส่งชันสูตรให้ แต่ก็ไม่ได้รับคำยืนยันจากทางแพทย์ จึงต้องให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ กลับไปก่อนพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหลือแต่ญาติผู้เสียชีวิตที่ยืน งง ว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป
ญาติจึงได้โทรประสานกับผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลฯ ให้ส่งทีมแพทย์เข้ามาพิสูจน์ และประสานไปยังสาธารณสุขอำเภอศรีราชา รวมถึงหน่วยงานเอกชนที่บริจาคเงินสร้างอาคารฉุกเฉินให้กับโรงพยาบาลฯ ขอความช่วยเหลือให้ช่วยดำเนินการประสานโรงพยาบาลแหลมฉบังให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
จนเวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฯ ได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุใส่ชุดป้องกันเชื้อมาอย่างดี จำนวน 4 นายด้วยกัน ได้เข้ามาตรวจพร้อมกับยืนยันว่าจะไม่นำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปโรงพยาบาลฯ แต่ให้ญาติดำเนินการกันเอง ก่อนจะเดินทางกลับโรงพยาบาลไป โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาทีในการตรวจสอบ โดยแจ้งว่าจะไปเขียนใบชันสูตรที่โรงพยาบาล ให้ญาติไปเอาได้ที่โรงพยาบาล ส่วนร่างผู้เสียชีวิตให้ดำเนินการอย่างไรก็ไม่บอก ญาติก็ไม่รู้จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
จนกระทั้งเวลาประมาณ 12.00 น.ญาติได้สอบถามไปยังคนที่รู้จัก จึงเดินทางไปที่ สภ.แหลมฉบัง เพื่อจะขอใบส่งตัวไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ และได้เดินทางไปเอาเอกสารจากทางโรงพยาบาลก็ได้รับเอกสารการชันสูตร ระบุว่า “ไม่พบสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน ให้ส่งนิติเวชเพื่อทำการชันสูตรเพิ่มเติม ระยะเวลาการเสียชีวิต 4-24 ชั่วโมง” เท่านั้น โดยญาติได้สอบถามว่าจะต้องเอาศพไปดำเนินการอย่างไรต่อ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็โบ้ยให้ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบ พอไปถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่สามารถสั่งใครได้ แจ้งกู้ภัยให้ไปเก็บศพ ก็รับคำตอบมาว่า ทางกู้ภัยพร้อมดำเนินการให้ แต่เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กู้ภัยในช่วงนี้ ขอให้ทางทีมแพทย์ซึ่งมีอุปกรณ์ พร้อมทั้งชุดใส่ในการป้องกันครบ ไปห่อศพผู้เสียชีวิตด้วยอุปกรณ์ห่อศพที่มีซิปรูดอย่างดีให้หน่อย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯก็จะดำเนินการนำศพไปส่งสถาบันนิติเวชให้ แต่ทางโรงพยาบาลไม่ออกมาดำเนินการ
จนกระทั่งญาติทนไม่ไหว เนื่องจากรอเจ้าหน้าที่ทำงาน ไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมงแล้ว ศพผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่เดิม จึงจ้างเจ้าหน้าที่อีกหน่วยงานหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ดำเนินการเก็บร่างผู้เสียชีวิตดำเนินการไปส่งที่สถาบันนิติเวชวิทยาเอง ซึ่งบรรดาญาติ ๆ ก็ไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก และขอฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ถ้ามีครั้งต่อไปขอให้เจ้าหน้าที่บอกมาเลยว่าญาติจะต้องทำอย่างไรบ้าง ไม่ใช้โยนกันไปโยนกันมา ญาติก็มีความเสียใจกันอยู่แล้ว ต้องมาทนเห็นสภาพญาติที่เสียชีวิตนอนตายในที่เกิดเหตุอีกหลายชั่วโมงแบบนี้ มันยิ่งเจ็บปวดมากรู้ไหม!!
เสียงสัมภาษณ์ : นายไพศาล สุนทรภัทรชารี หลานชายผู้เสียชีวิต
สุรศักดิ์ ศรีนันทวงค์/ถ่ายภาพ
ยืนยงค์ ยินดีทรง/รายงาน
เมื่อเวลาประมาณ 08.25 น. วันที่ 4 เมษายน 2563 ศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ อยู่ที่บริเวณบ้านพักเจ้าหน้าที่สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง เลขที่ 118/12 ม.2 ตำบลทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสาน ร.ต.อ.บุญหลาย อินเอี่ยม ร้อยเวรสอบสวน สภ.แหลมฉบัง และเจ้าหน้าที่แพทย์จากโรงพยาบาลแหลมฉบังเข้าร่วม
ในที่เกิดเหตุบริเวณห้องพักชั้น 4 พบร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่ในห้องนอน ทราบชื่อผู้คือ นายสืบกุล กลิ่นแย้ม อายุ 56 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์ ในระดับ ซี 7 สำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ในสภาพนอนขวางเตียงนอน ขาทั้งสองข้างห้อยลงมาข้างเตียง โดยมี นายไพศาล สุนทรภัทรชารี อายุ 23 ปี หลานชายผู้เสียชีวิต ที่อาศัยอยู่ด้วยกันเป็นผู้พบศพเป็นคนแรก ในเวลาประมาณ 06.30 น. คาดว่าเสียชีวิตช่วงเวลาก่อนเช้ามืด โดยไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย
หลังจากนั้นเวลาประมาณ 09.00 น. ร.ต.อ.บุญหลาย อินเอี่ยม ร้อยเวรสอบสวน สภ.แหลมฉบัง ได้เข้ามาตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลให้เข้ามาร่วมชันสูตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและญาติได้รอเจ้าหน้าที่แพทย์จากโรงพยาบาลแหลมฉบังเข้าร่วมตรวจสอบ แต่ได้รับคำตอบจากโรงพยาบาลว่าให้ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตมาส่งที่โรงพยาบาลเอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ที่สแตนด์บายรอเก็บศพผู้เสียชีวิตก็รอให้ทีมแพทย์ของโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ครบในช่วง พรก.ฉุกเฉินการระบาดของไวรัสโควิด -19 ให้มาตรวจสอบและยืนยันว่าไม่ใช่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็จะดำเนินการตามขั้นตอนและเก็บศพไปส่งชันสูตรให้ แต่ก็ไม่ได้รับคำยืนยันจากทางแพทย์ จึงต้องให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ กลับไปก่อนพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหลือแต่ญาติผู้เสียชีวิตที่ยืน งง ว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป
ญาติจึงได้โทรประสานกับผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลฯ ให้ส่งทีมแพทย์เข้ามาพิสูจน์ และประสานไปยังสาธารณสุขอำเภอศรีราชา รวมถึงหน่วยงานเอกชนที่บริจาคเงินสร้างอาคารฉุกเฉินให้กับโรงพยาบาลฯ ขอความช่วยเหลือให้ช่วยดำเนินการประสานโรงพยาบาลแหลมฉบังให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
จนเวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฯ ได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุใส่ชุดป้องกันเชื้อมาอย่างดี จำนวน 4 นายด้วยกัน ได้เข้ามาตรวจพร้อมกับยืนยันว่าจะไม่นำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปโรงพยาบาลฯ แต่ให้ญาติดำเนินการกันเอง ก่อนจะเดินทางกลับโรงพยาบาลไป โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาทีในการตรวจสอบ โดยแจ้งว่าจะไปเขียนใบชันสูตรที่โรงพยาบาล ให้ญาติไปเอาได้ที่โรงพยาบาล ส่วนร่างผู้เสียชีวิตให้ดำเนินการอย่างไรก็ไม่บอก ญาติก็ไม่รู้จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
จนกระทั้งเวลาประมาณ 12.00 น.ญาติได้สอบถามไปยังคนที่รู้จัก จึงเดินทางไปที่ สภ.แหลมฉบัง เพื่อจะขอใบส่งตัวไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ และได้เดินทางไปเอาเอกสารจากทางโรงพยาบาลก็ได้รับเอกสารการชันสูตร ระบุว่า “ไม่พบสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน ให้ส่งนิติเวชเพื่อทำการชันสูตรเพิ่มเติม ระยะเวลาการเสียชีวิต 4-24 ชั่วโมง” เท่านั้น โดยญาติได้สอบถามว่าจะต้องเอาศพไปดำเนินการอย่างไรต่อ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็โบ้ยให้ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบ พอไปถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่สามารถสั่งใครได้ แจ้งกู้ภัยให้ไปเก็บศพ ก็รับคำตอบมาว่า ทางกู้ภัยพร้อมดำเนินการให้ แต่เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กู้ภัยในช่วงนี้ ขอให้ทางทีมแพทย์ซึ่งมีอุปกรณ์ พร้อมทั้งชุดใส่ในการป้องกันครบ ไปห่อศพผู้เสียชีวิตด้วยอุปกรณ์ห่อศพที่มีซิปรูดอย่างดีให้หน่อย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯก็จะดำเนินการนำศพไปส่งสถาบันนิติเวชให้ แต่ทางโรงพยาบาลไม่ออกมาดำเนินการ
จนกระทั่งญาติทนไม่ไหว เนื่องจากรอเจ้าหน้าที่ทำงาน ไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมงแล้ว ศพผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่เดิม จึงจ้างเจ้าหน้าที่อีกหน่วยงานหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ดำเนินการเก็บร่างผู้เสียชีวิตดำเนินการไปส่งที่สถาบันนิติเวชวิทยาเอง ซึ่งบรรดาญาติ ๆ ก็ไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก และขอฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ถ้ามีครั้งต่อไปขอให้เจ้าหน้าที่บอกมาเลยว่าญาติจะต้องทำอย่างไรบ้าง ไม่ใช้โยนกันไปโยนกันมา ญาติก็มีความเสียใจกันอยู่แล้ว ต้องมาทนเห็นสภาพญาติที่เสียชีวิตนอนตายในที่เกิดเหตุอีกหลายชั่วโมงแบบนี้ มันยิ่งเจ็บปวดมากรู้ไหม!!
เสียงสัมภาษณ์ : นายไพศาล สุนทรภัทรชารี หลานชายผู้เสียชีวิต
สุรศักดิ์ ศรีนันทวงค์/ถ่ายภาพ
ยืนยงค์ ยินดีทรง/รายงาน






