"ป่าห้วยขาแข้ง ยังสมบูรณ์" พบลูกช้างป่า อายุ 2-3 เดือนพลัดหลงแม่ เดินเดี่ยวเข้าหมู่บ้าน ชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่ เข้าช่วยเหลือ
เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 27 เมษายน 2563 นายธานี วงศ์นาค หัวหน้า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบลูกช้าง อายุประมาณ 2-3 เดือน เดินเดี่ยวเข้าไปในหมู่บ้าน บ้านไผ่งาม ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี
หลังรับแจ้ง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง พร้อมหัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และเจ้าหน้าที่จำนวน 30 นาย เข้าตรวจสอบตามคำแจ้ง
ผลการลงพื้นที่ พบว่า เป็นลูกช้างป่า ตัวยังเล็ก อายุประมาณ 2-3 เดือน เดินเดี่ยวอยู่ตรงทางเข้าศาลาประชาคมของหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ ร่วมกับราษฎรบ้านไผ่งาม พยายามที่จะเข้าจับลูกช้าง เพื่อที่จะนำออกจากหมู่บ้าน แต่จับไม่อยู่ เนื่องจากลูกช้างดิ้นแข็งแรงและดิ้น จึงได้เปลี่ยนแผนเป็นร่วมกันทำการต้อนลูกช้างให้ออกจากหมู่บ้าน กลับเข้าป่าไปหาฝูง แทน
แต่ปรากฏว่าเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืน ลูกช้างได้หลบหายไปท่ามกลางความมืด เจ้าหน้าที่ไม่ละความพยายาม ได้ทำการแกะรอยติดตามลูกช้างอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเกรงว่าลูกช้างอาจจะได้รับอันตราย เช่น ตกลงไปในบ่อน้ำ หรืออาจสุนัขไล่กัด เจ้าหน้าที่ติดตามหากันทั้งคืน แต่ไม่พบลูกช้าง
จนกระทั่ง เวลาประมาณ 08.30น. ของวันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้พบลูกช้างป่ากำลังดินอยู่บนเส้นทางระหว่างบ้านไผ่งาม-ทุ่งแฝก จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดติดตามลูกช้าง มาช่วยจับลูกช้าง จนสามารถจับไว้ได้ และได้ต้อนนำไปอนุบาลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ไว้ก่อน เนื่องจากไม่ทราบแน่ชัดว่าลูกช้างพลัดหลงฝูงจากบริเวณใด และ จากช้างฝูงใด เพื่อความปลอดภัยของลูกช้าง จึงได้ตัดสินใจนำลูกช้างไปพักไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ไว้ก่อน
ทั้งนี้ชุดลาดตระเวนติดตามฝูงช้างในพื้นที่ รวมทั้งจะตรวจสอบกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า ว่ามีการบันทึกฝูงช้างที่มีลูกช้างไว้หรือไม่ เพื่อวิเคราะห์ ว่าลูกช้างมาจากฝูงช้างใด จะได้นำลูกช้างกลับเข้าสู่ฝูงให้ถูกฝูงต่อไป
ทั้งนี้จากการสอบถามราษฎรในพื้นที่บ้านไผ่งาม และบ้านบึงเจริญ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกังบริเวณที่เกิดเหตุ แจ้งว่าฝูงช้างที่ลูกช้างพลัดหลง น่าจะพลัดหลงมาจากป่าในพื้นที่ป่าที่เตรียมการจะประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ท้องที่ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี คาดว่าน่าจะพลัดหลงอันเนื่องมาจากตกใจและแตกตื่น เมื่อเจอกลุ่มชาวบ้านที่ออกมาหาตัวอึ่ง โดยกลุ่มชาวบ้าน เมื่อเจอช้างอาจจุดประทัด เพื่อไม่ให้ช้างเข้ามาใกล้ ทำให้ช้างทั้งฝูงตกใจวิ่งหนีไป ทิ้งลูกช้าง 1 ตัว ไว้ ทำให้ลูกช้างพลัดหลงออกจากฝูง
เมื่อเช้าวันที่ 28 เมษายน 2563 นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผอ. สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12(นครสวรรค์) พร้อมทีมงานของนายสัตวแพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ลงพื้นที่เพื่อตรวจดูสภาพและสุขภาพของลูกช้าง พบว่าลูกช้างมีความแข็งแรงมาก ส่งเสียงร้องเป็นบางครั้ง โดยเฉพาะเมื่อหิวนม
จากนั้นได้เรียกเจ้าหน้าที่ประชุมวางแผนหาทางปล่อยลูกช้างให้คืนสู่อกแม่อย่างปลอดภัย ซึ่งจะต้องทำอย่างรอบคอบ เพื่อให้ทั้งเจ้าหน้าที่ปลอดภัย ลูกช้างปลอดภัย เพราะหากปล่อยลูกช้างเข้าผิดฝูง ลูกช้างอาจถูกช้างต่างฝูงทำร้ายจนตายได้ และหากการเลี้ยงดูไม่ถูกวิธี ลูกช้างอาจป่วยหรือติดโรคได้ ดังนั้นเพื่อความรอบคอบ ปลอดภัย และให้การปฎิบัติตรงตามหลักวิชาการ เห็นควรให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ และประสบการณ์จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มาช่วยให้คำแนะและดำเนินการโดยด่วนต่อไป
!!!!!อัมพณ จับศรทิพย์ รายงาน 0886436594!!!!!
หลังรับแจ้ง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง พร้อมหัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และเจ้าหน้าที่จำนวน 30 นาย เข้าตรวจสอบตามคำแจ้ง
ผลการลงพื้นที่ พบว่า เป็นลูกช้างป่า ตัวยังเล็ก อายุประมาณ 2-3 เดือน เดินเดี่ยวอยู่ตรงทางเข้าศาลาประชาคมของหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ ร่วมกับราษฎรบ้านไผ่งาม พยายามที่จะเข้าจับลูกช้าง เพื่อที่จะนำออกจากหมู่บ้าน แต่จับไม่อยู่ เนื่องจากลูกช้างดิ้นแข็งแรงและดิ้น จึงได้เปลี่ยนแผนเป็นร่วมกันทำการต้อนลูกช้างให้ออกจากหมู่บ้าน กลับเข้าป่าไปหาฝูง แทน
แต่ปรากฏว่าเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืน ลูกช้างได้หลบหายไปท่ามกลางความมืด เจ้าหน้าที่ไม่ละความพยายาม ได้ทำการแกะรอยติดตามลูกช้างอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเกรงว่าลูกช้างอาจจะได้รับอันตราย เช่น ตกลงไปในบ่อน้ำ หรืออาจสุนัขไล่กัด เจ้าหน้าที่ติดตามหากันทั้งคืน แต่ไม่พบลูกช้าง
จนกระทั่ง เวลาประมาณ 08.30น. ของวันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้พบลูกช้างป่ากำลังดินอยู่บนเส้นทางระหว่างบ้านไผ่งาม-ทุ่งแฝก จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดติดตามลูกช้าง มาช่วยจับลูกช้าง จนสามารถจับไว้ได้ และได้ต้อนนำไปอนุบาลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ไว้ก่อน เนื่องจากไม่ทราบแน่ชัดว่าลูกช้างพลัดหลงฝูงจากบริเวณใด และ จากช้างฝูงใด เพื่อความปลอดภัยของลูกช้าง จึงได้ตัดสินใจนำลูกช้างไปพักไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ไว้ก่อน
ทั้งนี้ชุดลาดตระเวนติดตามฝูงช้างในพื้นที่ รวมทั้งจะตรวจสอบกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า ว่ามีการบันทึกฝูงช้างที่มีลูกช้างไว้หรือไม่ เพื่อวิเคราะห์ ว่าลูกช้างมาจากฝูงช้างใด จะได้นำลูกช้างกลับเข้าสู่ฝูงให้ถูกฝูงต่อไป
ทั้งนี้จากการสอบถามราษฎรในพื้นที่บ้านไผ่งาม และบ้านบึงเจริญ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกังบริเวณที่เกิดเหตุ แจ้งว่าฝูงช้างที่ลูกช้างพลัดหลง น่าจะพลัดหลงมาจากป่าในพื้นที่ป่าที่เตรียมการจะประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ท้องที่ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี คาดว่าน่าจะพลัดหลงอันเนื่องมาจากตกใจและแตกตื่น เมื่อเจอกลุ่มชาวบ้านที่ออกมาหาตัวอึ่ง โดยกลุ่มชาวบ้าน เมื่อเจอช้างอาจจุดประทัด เพื่อไม่ให้ช้างเข้ามาใกล้ ทำให้ช้างทั้งฝูงตกใจวิ่งหนีไป ทิ้งลูกช้าง 1 ตัว ไว้ ทำให้ลูกช้างพลัดหลงออกจากฝูง
เมื่อเช้าวันที่ 28 เมษายน 2563 นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผอ. สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12(นครสวรรค์) พร้อมทีมงานของนายสัตวแพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ลงพื้นที่เพื่อตรวจดูสภาพและสุขภาพของลูกช้าง พบว่าลูกช้างมีความแข็งแรงมาก ส่งเสียงร้องเป็นบางครั้ง โดยเฉพาะเมื่อหิวนม
จากนั้นได้เรียกเจ้าหน้าที่ประชุมวางแผนหาทางปล่อยลูกช้างให้คืนสู่อกแม่อย่างปลอดภัย ซึ่งจะต้องทำอย่างรอบคอบ เพื่อให้ทั้งเจ้าหน้าที่ปลอดภัย ลูกช้างปลอดภัย เพราะหากปล่อยลูกช้างเข้าผิดฝูง ลูกช้างอาจถูกช้างต่างฝูงทำร้ายจนตายได้ และหากการเลี้ยงดูไม่ถูกวิธี ลูกช้างอาจป่วยหรือติดโรคได้ ดังนั้นเพื่อความรอบคอบ ปลอดภัย และให้การปฎิบัติตรงตามหลักวิชาการ เห็นควรให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ และประสบการณ์จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มาช่วยให้คำแนะและดำเนินการโดยด่วนต่อไป
!!!!!อัมพณ จับศรทิพย์ รายงาน 0886436594!!!!!