เหลือเชือสาวเวียงแก่นถูกหลอกเงินกว่าแสนบาททำงานต่างประเทศทางโซเชียลมีเดียแต่ได้คืน
นางสาวกาญจนา ศรปัญญา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 270 หมู่9 ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เดินทางเข้ามายังศูนย์ข่าวภาคเหนือช่อง 13 (จ.เชียงราย) EJAN และGMM25 พร้อมหอบหลักฐานการโอนเงิน แชทการคุยกับบุคคลที่ใช้เฟสบุ๊คว่า"ปลดหนี้สร้างชีวิต"เกี่ยวกับการทำงานยังประเทศออสเตรเลียจนสูญเงินเป็นจำนวน 118,000 บาท เพื่อขอความช่วยเหลือในการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเชียงของเพราะเกรงว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะถูกโยกย้ายถ่ายโอน โดยก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2563 น.ส.กาญจนาได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวัน ต่อ พ.ต.ท.กฤตพัฒน์ บุญยเกษมโรจน์ สว.สส.สภ.เชียงของไว้เป็นหลักฐานไว้แล้ว ซึ่ง น.ส.กาญจนาได้เล่าเหตุการณ์ว่าได้ติดตามน้องคนหนึ่งที่ใช้ชื่อเฟสบุ๊ค"ปลดหนี้สร้างชีวิต"(ไม่ทราบชื่อ-สกุล จริงของเจ้าของเฟส)มาปีกว่าที่มีการโพส์ตข้อความการส่งคนงานไทยไปทำงานในต่างประเทศเช่นประเทศออสเตรเลีย, ญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่งส่วนใหญ่ข้อความเป็นการชักชวนและแชร์ข้อความความสำเร็จของผู้ที่เขาส่งไปทำงานยังต่างประเทศ ต่อมาในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ตนเองได้ติดต่อไปเพื่อพูดคุยสอบถามว่าตนเองสนใจไปทำงานยังประเทศออสเตรเลียพร้อมส่งเอกสารสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หน้าสมุดบัญชีธนาคาร รูปถ่ายและทะเบียนสมรส ไปให้เขาดูในเฟส ไม่นานได้ข้อความตอบรับว่าเอกสารของคุณน่าจะไม่มีปัญหาซึ่งในขบวนการนี้ต้องจ่ายเงิน 68,000 บาท(หกหมื่นแปดพันบาทถ้วน)เพื่อขอวีซ่าตนเองจึงโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปในวันที่ 27 พ.ย.2563 ไปยังบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขามาร์คโฟร์ พลาซ่า ชื่อผู้รับวันเพ็ญ(ขอสงวนนามสกุล) ต่อมาในวันที่ 24 ธันวาคม 2563 บุคคลดังกล่าวให้ไปโอนเงินให้อีก 50,000 บาท(ห้าหมื่นบาท)แจ้งว่าเป็นตั๋วเครื่องบินเดินทางไปประเทศออสเตรเลียซึ่งตนก็ทำตามโดยโอนไปบัญชีของวันเพ็ญเช่นครั้งแรก และในวันที่ 15 มกราคม 2563 ให้เดินทางไปกรุงเทพเพื่อรับวีซ่าและตั๋วเครื่องบิน ที่หมอชิต ระหว่างเดินทางก็สามารถติดต่อได้แต่ไปถึงกรุงเทพในวันที่ 15 ม.ค.63ตามนัดหมายบุคคลดังกล่าวได้ปิดเฟสบุ๊ค ลบแชทหนีและติดต่อไม่ได้เมื่อรู้ตัวโดนหลอกก็ไปขอคำปรึกษาที่ สน.บางสื่อ ก่อนเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.เชียงของและเดินทางขอความช่วยเหลือจากนายจักรภัทร แสนภูธร หัวหน้าศูนย์ข่าวภาคเหนือช่อง 13 สยามไทย, EJAN และGMM25 ในครั้งนี้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 น.ส.กาญจนา ได้เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เชียงของ พร้อมด้วยพ.ต.ท.กฤตพัฒน์ บุญยเกษมโรจน์ สว.สส.สภ.เชียงของ เพื่อนำกระเช้าไปมอบให้เพื่อเป็นการขอบพระคุณที่ช่วยติดตามเร่งรัดคดีจนได้เงินคืน
พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เชียงของ กล่าวว่าในการที่มีการถูกหลอกไปทำงานในลักษณะนี้ส่วนใหญ่เมื่อโอนเงินไปให้มิจฉาฉีพแล้วกว่า 90%ไม่ได้รับคืน น.ส.กาญจนาถือเป็นผู้โชคดี ที่ทุกฝ่ายไม่ว่าตำรวจ ผู้สื่อข่าว ธนาคารได้ร่วมทำงานกันแบบอย่างรวดเร็วจนสามารถนำไปสู่การได้ทรัพย์คืนมา ดังนั้นประชาชนที่ต้องการจะไปทำงานยังต่างประเทศควรไปปรึกษาสำนักงานจัดหางาน กรมการแรงงานจะดีกว่าเพราะป้องกันการถูกหลอก ส่วนในเรื่องของคดีต้องเดินต่อไปซึ่งเจ้าหน้าที่รู้ตัวผู้กระทำความผิดแล้วและเชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายอีกหลายรายหากพบความผิดเพิ่มเติมก็จะทำการรวบรวมหลักฐานเอาผิดต่อผู้กระทำความผิดรายนี้ต่อไป
น.ส.กาญจนา กล่าวว่า ขอบพระคุณตำรวจสถานีตำรวจเชียงของ ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ช่อง13, GMM25 เพจ EJAN ที่ช่วยติดตามคดีจนตนเองสามารถได้เงินส่วนใหญ่คืนมา และฝากเตือนไปถึงผู้ใช้แรงงานที่ต้องการไปทำงานยังต่างประเทศควรไปปรึกษาสำนักงานจัดหางานจังหวัดใกล้บ้านคุณเพื่อป้องกันปัญหาการหลอกลวงที่ตนเองเจออยู่
ข่าวโดย...จักรภัทร แสนภูธร รายงาน รมณ ภัทรทองศักดิ์ ถ่ายภาพ